HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
โพสต์ทูเดย์ [ วันที่ 29/05/2555 ]
วันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง

 ต่อไปนี้เจอะเจอคนที่รักคงต้องไถ่ถามกันแล้วล่ะว่า "วันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง"เพราะนมมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ใช่ดื่มแค่ตอนเป็นเด็กเท่านั้น วันที่ 1 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ เป็นวัน "ดื่มนมโลก" (World Milk Day 2012) ใครที่ละเลยการดื่มนมหันกลับมาให้ความสำคัญและชวนคนที่คุณรักมาดื่มนมกันเถอะ...
          1 มิ.ย. วันดื่มนมโลก"นม"เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและครบทุกคุณค่าของสารอาหารที่ร่างกายต้องการ และยังมีความสำคัญกับผู้คนทุกเพศทุกวัย เพราะสารอาหารที่มีอยู่ในนมนั้นมีคุณค่าทั้งต่อการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และสร้างเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ด้วยคุณค่าของนมที่มีอยู่มากมาย ดังนั้น "องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ"(The Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) จึงได้กำหนดให้วันที่ 1 มิ.ย.ของทุกปี เป็น "วันดื่มนมโลก"เพื่อให้ประเทศต่างๆและองค์กรที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการบริโภคนม ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบริโภคนม ด้วยการให้ความรู้และคุณประโยชน์ของนมแก่ประชาชน โดยปัจจุบันมีมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลกที่ได้มีการจัดกิจกรรมวันดื่มนมโลก เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม อังกฤษ ออสเตรเลีย สวีเดน และเดนมาร์ก เป็นต้น
          องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในฐานะหน่วยงานของรัฐสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ร่วมกับ FAO และกรมปศุสัตว์ จัดกิจกรรมวันดื่มนมโลกขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย. เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบริโภคนม โดยเฉพาะการดื่มนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ณ บริเวณลานกิจกรรมดิจิตอล เกตเวย์ สยามสแควร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ภายในงานประกอบด้วยนิทรรศการให้ความรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดื่มนมโคสดแท้การสาธิตการทำไอศกรีมจากนมรูปแบบต่างๆ การเสวนาเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน
          การแสดงบอลลูนแมน และ D-Dance เพื่อแสดงถึงความแข็งแรงของร่างกาย มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังตลอดจนมีผลิตภัณฑ์จากนมหลากชนิดให้ผู้เข้าชมงานได้ดื่มและชิมฟรีดื่มนมโคสดแท้100 เปอร์เซ็นต์ ในนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กวัยแรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่โดยเฉพาะแคลเซียมเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างร่างกาย เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานของระบบประสาททำงานได้ตามปกติ เด็กต้องการแคลเซียมมากกว่าผู้ใหญ่เพื่อสร้างกระดูกและฟัน และหากสะสมไว้อย่างเพียงพอแล้วในวัยผู้ใหญ่แคลเซียมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคกระดูกพรุน ที่สำคัญแคลเซียมที่อยู่ในนมโคสดแท้จะสามารถดูดซึมเข้าไปใช้ในร่างกายได้ง่ายกว่าการรับประทานแคลเซียมเสริม หรือนมสดที่เสริมแคลเซียม
          นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยวิตามินหลากชนิดเช่น วิตามินเอ ช่วยในการทำงานของระบบสายตา วิตามิน บี1 ช่วยในการทำงานของหัวใจและระบบขับถ่าย วิตามิน บี2 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและผิวหนัง และวิตามินดีช่วยป้องกันความผิดปกติของกล้ามเนื้อและลดไขมันในเส้นเลือด
          จากผลการศึกษาด้วยการนำนมโคสดแท้100 เปอร์เซ็นต์ นมปรุงแต่งรสหวานและนมเปรี้ยวในปริมาณ 100 มิลลิกรัม มาเปรียบเทียบคุณค่าทางสารอาหาร จะพบว่านมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะให้สารอาหารที่สูงที่สุด เช่น คุณค่าด้านแคลเซียม นมโคสดแท้135 มิลลิกรัม นมหวาน 120 มิลลิกรัม นมเปรี้ยว70 มิลลิกรัม ด้านโปรตีน นมโคสดแท้ 3.3 กรัมนมหวาน 2.3 กรัม นมเปรี้ยว 1.3 กรัม ในส่วนของวิตามินเอ นมโคสดแท้ 71 ไมโครกรัม นมหวาน 38 ไมโครกรัม และนมเปรี้ยว 17 ไมโครกรัม ผลดังกล่าวทำให้วิเคราะห์ได้ว่า นมหวานและนมเปรี้ยวนั้นจะทำให้เด็กอ้วนได้มากกว่า นอกจากนี้นมสดรสธรรมชาติยังเป็นอาหารที่สร้างความแข็งแรงให้กับฟัน ซึ่งหากเติมน้ำตาลเป็นนมหวาน เด็กจะเสี่ยงเป็นโรคฟันผุมากกว่าเด็กที่ดื่มนมจืดถึง 2-3 เท่า
          นพดล ตันวิเชียรรองผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่าการดื่มนมโดยเฉพาะนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ดื่มแล้วยังเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศให้สามารถขายน้ำนมดิบได้มากขึ้นตลอดจนช่วยผลักดันการสร้างช่องทางใหม่ในการทำธุรกิจโคนมและน้ำนมสดอีกทางหนึ่งด้วยจึงเชิญชวนคนไทยหันมาบริโภคนมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสาวๆ ที่รักสุขภาพและบางครั้งไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้า นมสดสามารถเป็นทางเลือกทางหนึ่งที่สามารถบริโภคได้ เนื่องจากมีสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างสมบูรณ์ เหมาะกับสภาพร่างกายที่สามารถนำประโยชน์ไปใช้ได้ทันที ที่สำคัญคนที่ดื่มนมต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ซึ่งกำลังเป็นโรคที่คุกคามประชากรทั่วโลก โดยโรคนี้มีผลกระทบต่อผู้หญิง 1 ใน 3 คน และผู้ชาย 1 ใน 5 คนทั่วโลกที่มีอายุ 50 ปีอีกด้วย
          รู้ทันโรคกระดูกพรุนพ.อ.นพ.จิระเดช ตุงคะเศรณีแพทย์ประจำศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 2กล่าวว่าโรคกระดูกพรุน หรือ โรคกระดูกผุ โปร่งบาง จัดเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเผชิญในอนาคตข้างหน้า เนื่องมาจากสังคมอนาคตจะเป็นสังคมของผู้สูงอายุหรือผู้มีอายุยืน โดยผู้ชายและผู้หญิงอายุเฉลี่ยประมาณ 70 และ 75 ปี ตามลำดับ
          ความสำคัญของโรคนี้ คือ เป็นโรคที่ไม่มีอาการแสดงที่เด่นชัด คนเป็นโรคไม่มีอาการปวดจึงทำให้ละเลย เพิกเฉยในการไปพบแพทย์ เกิดอุปสรรคต่อการวินิจฉัยและทำการรักษานานวันเข้ากระดูกที่พรุนนั้นมีความผุกร่อนรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดเกิดผลที่ทุกคนไม่อยากเจอ นั่นคือ "กระดูกหัก" ที่พบบ่อยได้แก่ การหักที่กระดูกสันหลัง ตะโพก และข้อมือ การหักที่ตะโพกค่อนข้างวิกฤต
          อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันความสูญเสีย จึงจำเป็นต้องมีการตรวจหาความเสี่ยงของการหัก นับเป็นข่าวดีที่การตรวจหาความเสี่ยงสามารถกระทำได้ง่ายดายเหมือนกับการเอกซเรย์ทรวงอก เรียกว่า การตรวจความหนาแน่นของกระดูกหรือการตรวจมวลกระดูกเพื่อเป็นการเอกซเรย์หาความแข็งแรงของกระดูก
          หากตรวจพบว่ามีภาวะกระดูกพรุนต้องให้การรักษา และการรักษาเพื่อให้กระดูกแข็งแรงไม่สามารถทำได้แบบทันทีทันใด ต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาเพิ่มการสะสมของแร่ธาตุแคลเซียม ฟอสเฟต ในเนื้อกระดูก และลดการทำลายหรือสูญสลายของกระดูกที่มากขึ้นตามอายุสูงวัย และกิจกรรมที่ถดถอยน้อยลง ดังนั้นหากพบว่าเป็นโรคกระดูกพรุนแล้วอย่าเพิ่งตกใจสามารถทำการรักษาให้มีภาวะกระดูกหนาแน่นสมบูรณ์ได้อีกอย่างแน่นอน แต่ทว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุแคลเซียม หรือการรับประทานยาแคลเซียมเสริมในผู้สูงอายุที่มีกระดูกพรุนมักไม่เพียงพอ ต้องให้ยาเสริมการดูดซึมแคลเซียมเช่น วิตามินดี และยาช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก โดยให้ลดการสูญสลายเนื้อกระดูกร่วมกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยขึ้นดื่มนมกันตั้งแต่เด็กจนโตและเริ่มดื่มนมกันเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันโรคภัยที่จะตามมาได้ในอนาคต...มาดื่มนมกันเถอะ


pageview  1205007    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved