กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะนำโลโก้เดิมซึ่งเคยใช้เมื่อปี2545 มาใช้อีกครั้ง ขณะนี้ได้ทำหนังสือสั่งการไปยังโรงพยาบาลในสังกัดจัดเตรียมระบบรองรับเรียบร้อยแล้ว
          ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องเก็บจากผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลสังกัด สธ. เฉพาะผู้ที่เข้ารับบริการเฉพาะวันเสาร์เพื่อเป็นการนำร่องก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องการวัดกระแสตอบรับจากผู้ใช้บริการว่ามีความพึงพอใจระดับใด และพร้อมร่วมจ่ายหรือไม่ จากนั้นจึงจะประเมินผลเพื่อตัดสินใจทางนโยบาย
          ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)เมื่อวันที่14 พ.ค. ที่ผ่านมาได้มีมติเลือกนพ.วินัย สวัสดิวร เป็นเลขาธิการ สปสช.เป็นวาระที่ 2 โดยจะปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง และจะประเมินผลการทำงานทุก 6 เดือน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่านพ.วินัยเหมาะสมต่อตำแหน่งเพราะสามารถสานงานต่อได้ทันที แต่เมื่อดำรงตำแหน่งวาระที่ 2 ก็ต้องมีความหนักแน่น มีความเป็นอิสระ ไม่ปล่อยให้กองทุนถูกแทรกแซงหรือถูกล้วงลูกหาผลประโยชน์ได้
          ย้อนไปดูที่มาของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ถือกำเนิดในยุคพรรคไทยรักไทย เมื่อปี2545 สมัยทักษิณชินวัตร เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งเต็มตัว
          จนถึงวันนี้ครบ 10 ปีเต็ม ยี่ห้อ 30 บาท ยังติดหูชาวบ้านไม่จางหาย
          ก่อนจะกลายเป็นนโยบายฮือฮาระดับประเทศ ปี 2543 นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์คือผู้อยู่เบื้องหลังจัดทำข้อเสนอทางนโยบายและยกร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มอบให้พรรคประชาธิปัตย์ ทว่า ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ยังมองไม่ขาด
          "ไม่พร้อม งบประมาณไม่พอ"คือวรรคทองของประชาธิปัตย์ปี 2544 ก่อนการเลือกตั้ง นพ.สงวนตัดสินใจเข้าพบทีมยุทธศาสตร์พรรคไทยรักไทยเพื่ออธิบายแนวคิดจนในที่สุดพรรคไทยรักไทยนำเข้าบรรจุเป็นหนึ่งในนโยบายหลักในการหาเสียงและสามารถกวาดคะแนนเสียงชนิดถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2544 จนเกิดเป็น "30 บาทรักษาทุกโรค หรือบัตรทอง"เต็มรูปแบบรัฐบาลทักษิณ 1 ได้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นั่งคุมกระทรวงหมอนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็น รัฐมนตรีช่วย นพ.มงคล ณ สงขลาเป็นปลัดกระทรวงการตั้งไข่โครงการไม่ราบรื่นในระยะแรกถูกกลุ่มแพทย์ชุดดำต่อต้านซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคลื่อนไหวต่อต้านสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) จนปัจจุบัน
          ปี 2549 ทหารตบเท้ายึดประเทศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรตกกระเก้าอี้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์เข้าบริหารแทนรัฐบาลขิงแก่มอบให้ นพ.มงคล นั่งรมว.สาธารณสุข และได้ประกาศยกเลิกเก็บค่ารักษาพยาบาล 30 บาท พร้อมทั้งเพิ่มงบฯ เหมาจ่ายรายหัว
          ภายหลัง นพ.สงวน หมดวาระและได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการ สปสช. อีกสมัย จากนั้นเพียง 1 ปี นพ.สงวน ก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอด ได้ นพ.วินัย สวัสดิวร มาทำหน้าที่ต่อในช่วงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์พลิกขั้วกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
          จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์เข้าคุมกระทรวงหมอ จึงสั่งเพิ่มงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์พร้อมได้รีแบรนด์ "บัตรทอง"เป็น "รักษาฟรี 48 ล้านคน ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว" ... แต่ก็นำร่องได้แค่บางจังหวัด
          ปี 2554 ไทยรักไทยแปลงร่างมาถึงยุคเพื่อไทยได้ วิทยา บุรณศิริเป็นรมว.สาธารณสุข ประกาศกร้าวตั้งแต่เหยียบกระทรวงขอรื้อฟื้นโครงการ 30 บาทกลับมาอีกครั้ง