ในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าวเนื่องจากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น  อาจทำให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยแข็งแรงเจ็บป่วย ได้ง่ายกว่าคนวัยหนุ่มสาว
          นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์บอกว่า โรคที่ ผู้สูงอายุต้องระวังและพบบ่อยในช่วงอากาศร้อน คือโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เกิดจากการที่ผู้สูงอายุอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง และได้รับความร้อนมากเกินไป ส่งผลให้ การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมองผิดปกติ
          สัญญาณเตือนที่สำคัญของโรค ฮีทสโตรก คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน เกร็งกล้ามเนื้อ  รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวลดน้อยลง อาจทำให้หมดสติ หัวใจเต้นเร็วแต่แผ่วเบา ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลา อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้
          สำหรับการป้องกันผู้สูงอายุไม่ควรตากแดดในช่วงเที่ยงวัน หรือเลี่ยงการทำ กิจกรรมกลางแจ้งในช่วงบ่ายโมงไปถึง  4 โมงเย็น แต่หากมีความจำเป็นต้องสัมผัสแดดควรใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตัว เพื่อลดความร้อนในร่างกาย และควร จิบน้ำเปล่าให้บ่อยที่สุดในวันที่มีอากาศร้อนจัด สวมแว่นกันแดด และกางร่มก่อนออกจากบ้าน
          อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ เวลาอากาศร้อนมากๆ เชื้อโรคต่างๆ จะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี อาหารจะบูดเสียง่ายกว่าปกติ ซึ่งถ้ากินอาหารไม่สะอาด อาการท้องเสียจะตามมาได้ง่ายขึ้น
          คุณหมอธีรพล แนะวิธีป้องกันว่า ควรยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อลดการติดเชื้อ และไม่กินอาหารที่ตั้งทิ้งไว้นานๆ และอีกโรคที่ต้องระวังหน้าร้อน คือ โรคผิวหนังแสบ แดง เป็นผื่นที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานๆ โดยปราศจากสิ่งป้องกัน จะทำให้ผิวหนังของผู้สูงอายุเกิดอาการไหม้ เกรียม แสบ และแดงเป็นผื่นได้
          ดังนั้นควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวพรรณ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสียูวีมากกว่า 50PA+++ ทาลงบน ผิวหน้าและผิวกายก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที และควรทาซ้ำทุก  2-4 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวหนังจากแสงแดด
          "คนที่ดูแลผู้สูงอายุควรใส่ใจในสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างรอบด้านด้วยการจัดสถานที่ให้อากาศถ่ายเทเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงความอับชื้น เพราะอาจเป็นแหล่งเชื้อโรคและทำให้ไม่สบายตัว หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะอาจมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ระบบขับถ่าย" คุณหมอธีรพล กล่าว
          นอกจากนี้ต้องดูแลสภาวะอารมณ์ของผู้สูงอายุ โดยการดูแลอย่างใจเย็น พูดคุยอย่างมีศิลปะ รวมถึงสร้างบรรยากาศให้แจ่มใสอยู่เสมอ
          จิบน้ำเปล่าให้บ่อยที่สุดในวันที่มีอากาศร้อนจัด สวมแว่นกันแดดและกางร่มก่อนออก จากบ้าน