HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 08/03/2555 ]
วิกฤติหมอกควัน ฤดูไฟป่าภาคเหนือ


          สภาพอากาศ ในตัวเมือง อ.เมืองลำปาง และ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันสีขาวเพิ่มมากขึ้นทุกขณะจำทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง ทั้งเป็นช่วงเวลากลางวัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก
          ยังพบอีกว่าในวันที่ 16 ก.พ.2555 เกิดปรากฏการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก 10 ไมครอน ที่เกิดการเผาไหม้พื้นที่ป่า และพื้นที่โล่งแจ้ง ทุนสถิติสูงสุดของประเทศ กล่าวคือจากค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. แต่จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)
          วัดค่าสูงสุดที่สำนักงานประปาแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อยู่ที่ 192.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ส่วนที่สถานีอนามัยบ้านท่าสีวัดได้ 152.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และสถานีอนามัยบ้านสบป้าด 148.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
          ล่าสุด วันที่ 21 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ ยังพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงมีค่าระหว่าง 17.4-123.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกสถานี โดยเฉพาะสถานีสาธารณสุข แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่พบฝุ่นละอองสูง เกิดเกณฑ์มาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจนต้องออกมา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน
          กล่าวได้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนภาคเหนือต้องเผชิญกับปัญหาหมอกควันไฟป่า ย้อนกลับไปในปี 2550 เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้ว ครั้งนั้นมีคนป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจเกือบหมื่นราย เพราะหมอกควันอยู่นานเป็นสัปดาห์
          ข้อมูลจากพื้นที่ระบุตรงกันว่า สาเหตุหลักของหมอกควันคลุมเมืองเหนือ พบว่าประชาชนได้จุดไฟเผาในที่โล่งแจ้งกันเป็นจำนวนมาก เช่นจุดไฟเผาป่า จุดเผาไร่อ้อย ข้าวโพด จึงทำให้เกิดควันไฟพวยพุ่งไปในอากาศ ประกอบกับในช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมา จึงทำให้ท้องฟ้าในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอเกิดฟ้าหลัวและหมอกควัน หนาแน่น หลังจากมีหมอกควันไฟปกคลุม ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี และมีแนวโน้มจะลดต่ำลงเรื่อยๆ
          ก่อนหน้านี้ ดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะคาดการณ์และประเมินว่า ในปีนี้สถานการณ์ไฟป่ายังไม่รุนแรง และเลวร้ายมากนัก เพราะยังมีความชื้นของอากาศอยู่สูงจากภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง
          เขาบอกว่า พื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ป่า 5 อันดับแรกในประเทศไทยขณะนี้คือ 1.ห้วยขาแข้ง 2.อำเภอแม่แจ่มและดอยอินทนนท์ 3.ดอยสุเทพ-ปุย 4.ภูกระดึง 5.โครงการพัฒนาดอยตุง ที่ผ่านมาได้พยายามให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยังในหมู่บ้านและในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะหากยังมีการเผาป่ากันอย่างต่อเนื่องพื้นที่ป่าก็จะเสียหายเหลือน้อยลงและยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าด้วย
          แนวโน้มสถิติการเกิดไฟป่าย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ ปี 2550-2555 จะพบว่าการเกิดไฟป่ามีจำนวนลดลง แต่ในปี 2553 ได้เกิดไฟป่ารุนแรงจนทำให้เสียพื้นที่ป่าไปมากถึง 8 หมื่นกว่าไร่ และยังก่อให้เกิดวิกฤติการณ์หมอกควันในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอบน ทั้งนี้ต้นเหตุของการเกิดไฟป่าในประเทศไทยนั้นส่วนมากเกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ที่เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า ไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์ป่า การเผาพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรโดยไม่มีการควบคุม
          ดังนั้นในการทำงานเชิงรุก กรมอุทยานฯ มีแนวคิดให้มีการตั้งกองทุนเพื่อป้องกันไฟป่าในระดับหมู่บ้าน โดยให้งบประมาณเพื่อตั้งเป็นเงินรางวัลเหมือนกับที่เคยทำในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งนี้จะได้มีการทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่บ้านให้ระดมกำลังลูกบ้านช่วยกันป้องกันไฟป่า
          แต่ให้ขึ้นอยู่กับแนวทางและการจัดการในแต่ละหมู่บ้านนั้นๆ อาจสร้างแท็งก์น้ำหรือวางกำลังเผ้าระวังไฟป่า และหากหมู่บ้านใดไม่เกิดไฟป่าก็จะได้รับเงินรางวัล ประมาณ 10,000-20,000 บาท ถือเป็นการจูงใจประชาชนและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
          ลองมาดูกันว่า ไฟป่าปีนี้จะซ้ำรอยกับปี 2550 หรือไม่ เพราะว่าทุกอย่างล้วนมาจากฝีมือของคนนั่นเอง


pageview  1205019    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved