HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 14/01/2557 ]
เลี้ยงลูกให้ SMART รับปีมะเมีย
   เมื่อสัปดาห์ก่อนผู้เขียนได้เกริ่นไปถึงการเลี้ยงลูกให้เก่ง smart ไปแล้ว 2 หัวข้อคือท้องอย่าง smart กับอุ้มอย่าง smart  ใครจะไปเชื่อ เล่าว่าบางครั้งเรื่องเล็กๆน้อยก็ส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และสติปัญญาของลูกได้เหมือนกัน  สำหรับสัปดาห์นี้ผู้เขียนขอยกมาอีก 3 หัวข้อคือ
          3.รับประทานอย่าง smart : สำหรับผู้อ่านที่ติดตามคอลัมน์ มานานพอสมควรจะพบว่าผู้เขียนจะแนะนำเรื่องอาหารที่มีประโยชน์สำหรับลูกน้อยมากมายแต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นก็คือนมแม่ สำหรับเรื่องนี้ในช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาเราจะพบงานวิจัยหลายฉบับ ที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับประโยชน์ของนมแม่ และข้อที่สำคัญคือลูกที่ดื่มนมแม่ อย่างน้อย 6 เดือนจะมีIQ ดีกว่าเด็กที่ไม่ดื่มเมื่อโตขึ้นนอกจากเรื่อง IQ แล้วยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆรวมถึงการเข้าสังคมกับเพื่อนเมื่อต้องเข้าโรงเรียนด้วย เหตุผลหนึ่งที่นมแม่มีประโยชน์มากก็เพราะนมแม่มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อพัฒนาการด้านต่างๆทั้ง DHA หรือ Omega-3 ซึ่งจำเป็นและสำคัญมากสำหรับการพัฒนาระบบประสาทของสมองเด็ก โดยปกติคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกจะได้รับคำแนะนำให้รับประทานอาหารที่มี Omega-3 เช่น ปลาทะเลต่างๆ นอกเหนือจาก Omega-3  แล้วยังมีคอเลสเตอรอลที่ช่วยในการ พัฒนาสมองเช่นเดียวกันในขณะที่ ผู้ใหญ่อาจจำเป็นต้อง "ลด" คอเลสเตอรอลลง แต่เด็กจำเป็น ต้องเพิ่มคอเลสเตอรอลเพื่อที่จะ สร้างเนื้อเยื่อสมอง
          สารอาหารอีกอย่างหนึ่งที่มีอยู่และจำเป็นสำหรับลูกน้อยก็คือ  "แลคโตส" เป็นน้ำตาลที่มีมากที่สุดในน้ำนมเมื่อเด็กดูดนมเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนแลคโตสเป็นกลูโคสและกาแลคโตส ซึ่งร่างกายจะนำกาแลคโตสไปใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อสมองเช่นเดียวกัน
          การอุ้มลูกมาดื่มนมจากอกแม่นั้นนอกเหนือจากการที่ลูกจะได้รับวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นจากนมแล้ว  อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของสายสัมพันธ์ก็จะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เช่นเดียวกันคุณแม่ที่ให้นมลูกมีแนวโน้มจะไวต่อความต้องการของลูก เช่น หิวร้อนเหนื่อยหนาว ซึ่งในทางเดียวกันส่งผลให้ลูกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับได้อย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ยังส่งผลไปถึงเรื่องของทัศนคติความเข้าใจและ เอื้ออาทร เพราะคุณแม่มักจะแสดงสีหน้าห่วงใยเวลาปลอบประโลมเวลาที่ลูกแสดงอารมณ์ต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อเรื่องของพัฒนาการทางอารมณ์ของลูกในระยะยาว
          4.พูดอย่าง smart:กุมารแพทย์ จาก University College London ได้กล่าวไว้ว่า จริงๆแล้วเด็กไม่จำเป็นจะต้องสอนภาษาต่างๆตราบใดที่หูของ เขาทำงานได้เป็นอย่างดี นั่นหมายความว่า ยิ่งเด็กมีประสาทหูและการได้ยินที่ดีมากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้เด็กพูดได้ดีขึ้นเท่านั้น และคำว่าภาษานี้ "ไม่ใช่" แค่คำแท้จริงแล้วภาษาคือการสื่อสารเรื่องเดียวกันนี้กุมารแพทย์จาก  University of New Yorkได้กล่าว ไว้ว่าจริงๆ แล้วเด็กสามารถสื่อสาร ได้ตั้งแต่เกิดมาใหม่ๆการสื่อสารอาจเป็นเรื่องของการใช้เสียงและท่าทาง ไม่ว่าจะเป็นวิธีบอกเป็นนัยแล้วได้รับการตอบสนอง เช่น เด็กอาจยืน อ้าแขนแล้วแม่เดินเข้าไปอุ้มก็เท่ากับว่าเป็นการสื่อสารเช่นเดียวกัน
          ในขณะเดียวกันเรื่องของการพูดดูจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ใช่น้อยและสำหรับเรื่องนี้ คุณพ่อคุณแม่จะเป็นตัวกลางสำคัญในการช่วยให้การสื่อสารจากท่าทางและเสียงกลายเป็นคำที่มีความหมาย คุณพ่อคุณแม่ ที่มีเวลาจะเริ่มใช้สายตาในการพูด กับลูก เช่น การมองลูกที่ตาพร้อมกับ พูดช้าๆถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ เกิดพัฒนาการทางภาษาอย่างเป็นระบบ
          เรื่องนี้กุมารแพทย์จาก  University of North Carolina ได้แนะให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการพูดนี้ โดยพูดช้าๆแบบมีจังหวะโดยไม่เน้นเสียงแทนที่ จะเป็นการใช้จังหวะพูดแบบที่ใช้ ในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกันเวลาพูดก็ควรทำหน้าทำตาเช่น ตาเบิกโตหน้าเจือยิ้มเพราะจะทำให้เด็กสามารถจับนัยยะของคำพูดได้เร็วขึ้น   นักประสาทจิตวิทยาจาก Penn State University กล่าวไว้ว่า การพูดกับ เด็กเล็กๆ จะช่วยส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาในอนาคตอีกด้วย
          ส่วนคำแนะนำที่จะช่วยให้ลูก พูดได้นั้นคือ มองตาก่อนเริ่มบทสนทนา เรียกชื่อลูกก่อนพูด พยายามใช้ประโยคสั้นๆ 2-3 คำใน 1 ประโยคเช่น "ลูกจ๋าหม่ำๆ" พยายามทำให้ดู มีชีวิตชีวาด้วยเสียงโทนสูง-ต่ำถามเป็นคำถาม เช่น "อยากทานไหมคะ" คุณแม่พูดกับตัวเองในขณะที่มีลูกด้วยบ่อยๆ เช่น "เอ..เดี๋ยวเราไปทำอะไรกัน ดีน้าเดี๋ยวเราเริ่มจากเก็บขยะตรงนี้แล้วไปพับผ้าตรงโน้นนะคะ" ร้องเพลงบ้างเพราะนักวิจัยเชื่อว่าการร้องเพลงใช้หลายส่วนในสมองในการ ประมวลผลมากกว่าแค่คำคำเดียว ก็จะช่วยพัฒนาสมองด้านภาษาของลูกได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

pageview  1205896    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved