HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 20/09/2556 ]
มหันตภัยInstaGram

 เรื่อง : ปานใจ ปิ่นจินดา
          นับตั้งแต่พฤติกรรม 'สังคมก้มหน้า'แพร่ระบาดไปทั่ว ใครๆ ต่างก็ก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยม แลกเปลี่ยน ความเป็นไป สืบเรื่อง ชาวบ้าน เสพข่าวดราม่า แล้วยังต้องอัพรูปงามๆ ที่ผ่านการรีทัชจากแอพอีกนิดหน่อยก่อนจะยิงตรงส่งไปสู่เพื่อนฝูงที่ไม่เคยเห็นหน้าในโลกออนไลน์
          ต่างๆ เหล่านี้กลายเป็นโลกใหม่แห่งเกมการตลาด ที่หลุดพ้นจากกรอบคิดเดิมๆ กับสื่อเดิมๆ ว่า จะต้องซื้อ โฆษณาลงในสื่อโน้น สื่อนี้เท่านั้นจึงจะได้ผล เพราะสมัยนี้ อะไรๆ ก็ซื้อง่ายขายคล่องไปเสียหมด ขอเพียงมีคนได้เห็น' ไม่ว่าจะที่ไหน อย่างไร ก็ขายได้ทั้งสิ้น
          ขุดทองใน IG
          . สำหรับการ..ว่ากันว่า สนนราคาของ ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย ในนามของ ปลื้ม VRZOโพสท์รูปเพื่อการโฆษณาต่อหนึ่งครั้งในอินสตาแกรมอยู่ที่ 8 หมื่นบาท แลกกับการเข้าถึงผู้ติดตามเฉียดๆ3 แสนรายขณะที่นักร้องดังจากเพลงแน่นอก ใบเตยผู้มีสาวกติดตามกว่า อาร์สยาม @baitoey_rsiam 4.5 แสนคน เธอสามารถฟันรายได้เหนาะๆ ด้วยตัวเลข5 หลัก สำหรับการโพสท์รูปโฆษณาสินค้าต่อหนึ่งครั้งลงในโซเชียล เน็ตเวิร์ค ยี่ห้อเดียวกันส่วนสาวเปรี้ยวอย่าง พลอย หอวัง มีเรทราคาของการโฆษณาในอินสตาแกรมของเธออยู่ที่ 3-5 หมื่นบาท ซึ่งถือเป็นเรทมาตรฐานของดารา-คนดังที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นระดับนางรอง.. ถึงรองมาก ราคาก็หลากหลาย ต่อรองได้ตั้งแต่ 1-2 หมื่นบาท
          นั่นคือ ตัวอย่างเพียงหยิบมือเดียวสำหรับการลุกขึ้นมาใช้พื้นที่สื่อให้เป็นประโยชน์ของดาราคนดังทั้งหลายซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่น่าตกใจอะไรเพราะใครๆ ก็ขายกันทั้งนั้น ในเมื่อโลกของสื่อได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีนักการตลาดที่มองการณ์ไกลคนไหน จะมัวหมกมุ่นสนใจอยู่เพียงแค่สื่อเก่าๆ และวิธีการสื่อสารแบบเดิมๆ อีกต่อไป ที่ไหนมีกลุ่มเป้าหมายที่นั่นก็คือช่องทางสื่อสารได้ทั้งสิ้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ วันนี้ ทุกๆ ครั้งที่เปิดอินสตา- แกรมตามติดชีวิตดารา เป็นต้องได้เจอการโพสท์รูปสินค้า พร้อมติดแท็กไปยังแบรนด์หรือผู้ค้าสินค้านั้นๆอยู่เป็นประจำจากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงการ 'ช่วยๆ กัน' ในทำนองเพื่อนฝากมา แต่เมื่อทำไปทำมา จากเล่นๆเลยกลายเป็นเรื่องจริงจัง ขายกันเป็นเรื่องเป็นราวโดยแต่ละคนก็คิดราคาลดหลั่นกันไป ในเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ ความดัง, โพสิชันนิ่งของดาราหรือคนดังรายนั้นๆ จำนวนผู้ติดตามใน IG สินค้าที่จะซื้อโฆษณาเป็นสินค้าประเภทใด กระทั่งรายละเอียดปลีกย่อย อาทิ ลงกี่ครั้ง ลงนานแค่ไหน ถ้าลงแล้วลบก็ราคาหนึ่ง ลงแล้วทิ้งไว้ในนั้นเลยก็จะแพงขึ้นมา หรือถ้าระบุให้ต้องถือสินค้าด้วย ก็จะสูงกว่าถ่ายรูปคู่กับสินค้าเฉยๆ เป็นต้น
          ฟังๆ แล้วดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหา ในเมื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัว ใครใคร่ค้า... ค้า จะไปยุ่งอะไรกับเขา!แต่ที่กลายมาเป็นเรื่อง ก็เพราะในระยะหลังสินค้า ที่หมายตาซื้อโฆษณาใน IG ของดาราคนดังมากเป็นพิเศษ กลับเป็นสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม จำพวกที่อวดอ้างสารพัดสรรพคุณ ไม่ว่าจะเป็นขาว ใสเปล่งออร่า จนถึงลดความอ้วนได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งควรเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมอย่างใกล้ชิด ก็แห่มาทำตลาดกันในช่องทางนี้เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย แถมยังคุ้มค่าเห็นๆ จ่ายไม่กี่หมื่น แต่มีคนได้เห็นหลายหมื่นคน
          ขณะที่ดาราเองก็รับเงินง่ายๆ จ่ายสดงดเชื่อ ไม่ต้อง เข้าระบบ และด้วยความง่ายนี่แหละที่กลายเป็นปัญหา อย่างเช่นที่เกิดกับ "ใบเตย อาร์สยาม" ซึ่งถูกค่าย เรียกมาตักเตือน พร้อมประกาศอย่างเป็นทางการ ให้ใครก็ตามที่คิดจะซื้อโฆษณาใน IG ของเธอว่า ต้องติดต่อผ่านค่ายเท่านั้น!ภาพลักษณ์ต่างๆ ของศิลปิน คือ สมบัติของ บริษัท ฉะนั้นทุกอย่างจึงต้องผ่านบริษัททั้งหมด ทางเราเองก็เรียกนักร้องทุกคนมาทำความเข้าใจให้ ตรงกัน ว่า ที่เราดูแลให้ก็เพื่อผลประโยชน์ของเขาเองทั้งนั้น อย่างการไปรับสินค้าอะไรมาก็ไม่รู้ ก็อาจเสียถึงภาพลักษณ์ แถมยังอาจเสียโอกาสที่จะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ศุภชัย นิลวรรณ กรรมการ- สินค้าสำคัญๆ อีกด้วย" ผู้จัดการ ค่ายเพลง อาร์สยาม บอก
          ดีจริง หรือ ลวงโลก
          กูรูหลายราย ฟันธงตรงกัน คือ ไม่คิดว่า ดารา หรือคนดังเหล่านี้ จะคิดไกลไปถึงเรื่องความปลอดภัยเท่าไรนัก โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัว หรือต้นสังกัดดูแลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว คงน้อยเต็มทีที่จะลุกขึ้นมาทวงถาม เลขที่ใบจดแจ้ง หรือ ขอเลข อย. ไปตรวจสอบถึงมาตรฐานสินค้าที่ตนเองรับเงินมา ว่าเป็นสินค้าปลอดภัย ได้มาตรฐาน และได้ผลจริงอย่างคำโฆษณาหรือไม่ เพราะที่แน่ใจได้คือ ส่วนใหญ่ไม่ได้แม้กระทั่งจะทดลองใช้ด้วยซ้ำ!
          ยกตัวอย่างที่ชัดเจนกับสินค้าแบรนด์ที่ใช้ดารา ลงโฆษณาเยอะมากอย่าง @activecollagen10000ที่ขนมาเป็นกองทัพ (อยากรู้เปิดเข้าไปดูได้ ว่ามีใครโฆษณาให้บ้าง) ทั้งดารา-นักร้อง-คนดัง พริตตี้สวยเอ็กซ์ จนถึงเน็ตไอดอลนั้น ทราบหรือไม่ว่า สินค้าตัวหนึ่งของแบรนด์นี้จัดว่า "มีปัญหา"
          เพราะอาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อ Active SUNNY SLIM ซึ่งอวดอ้างว่า พิสูจน์แล้วจากการใช้จริงของซันนี่ U-FO ที่ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมได้ภายใน เดือนเดียว แถมท้ายด้วยว่าสินค้าตัวนี้ปลอดภัย ล้านเปอร์เซ็นต์ด้วยมาตรฐานระดับสากล
          ไม่ว่าจะได้ผลจริง หรือปลอดภัยจริงหรือไม่ อย่างไร แต่เรื่องจริงที่ ผู้ผลิต จนถึงตัวแทนขาย ควรจะตอบให้ได้ คือ จากเลขที่ อย. ซึ่งระบุไว้ว่า "20-1-22648-1-0001" นั้น เมื่อนำไปตรวจสอบใน ฐานระบบบน http://www.fda.moph.go.th/ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กลับปรากฏว่า เป็นเลขที่จดไว้ของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากกระบองเพชร สารสกัดจากถั่วขาว และแอล-คาร์นิทีน "ตรา คิว แคร์"
          "ถ้าเช็คแล้ว เจอว่า เป็นคนละยี่ห้อกับที่แจ้งไว้กับทาง อย. ให้ฟันธงได้เลยว่า นั่นคือ ของปลอมเพราะไปขโมยเลขที่ อย. ของสินค้าตัวอื่นมาแสดงภญ.ศรีนวล กรกชกร และถือเป็นความผิดด้วย"รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา มีคำตอบให้สำหรับกรณีนี้
          และยิ่งถ้าเห็นเจ้าไหน รายใด โฆษณาอวดอ้างว่า เป็น คอลลาเจน10,000 มิลลิกรัม หรือบางเจ้าอัดเข้าไปถึง 15,000 มิลลิกรัม แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า สินค้าตัวเองมี อย. ด้วยนั้น ภญ.ศรีนวล ยืนยันว่า ไม่มีทางที่ 9 อย. จะอนุญาตให้บรรจุปริมาณคอลลาเจนมากขนาดนั้นเป็นอันขาด เพราะฉะนั้นต่อให้ดาราดังแค่ไหนมาโฆษณาให้ ก็ฟันธงได้เช่นกันว่า "โกหก"
          ภญ.ศรีนวล อธิบายต่อว่า กรณีดาราที่มาช่วยโฆษณาให้สินค้าเหล่านี้ ก็จะถือว่ามีความผิดด้วยการโฆษณาโดยไม่ได้โดยอย่างแรกที่ผิดแน่ๆ คือ "จากทางอย. ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ไม่ว่า รับอนุญาต"จะเป็นสื่อไหน ช่องทางใด ก็ต้องได้รับการอนุญาต  "โฆษณาจาก อย. ด้วยกันทั้งสิ้น โดยนี่ยังไม่นับข้อหาเกินจริง" ที่อาจโดนหางเลขไปด้วยก็ได้ หากว่า มีการสาวไปถึง
          เรื่องการโฆษณาขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ กำลังเป็นปัญหาที่ทาง อย. หนักใจมาก เพราะการจะดำเนินการจับกุมก็ยาก สืบหาตัวก็ยาก และเมื่อหาเจอปุ๊บ ตามขั้นตอนคือ เราจะต้องส่งหนังสือไปแจ้งระงับโฆษณา พร้อมแจ้งข้อหาโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่ด้วยความที่โทษของเรา สูงสุดคือ ปรับ 5 พันบาทซึ่งมันน้อยมาก จนผู้ประกอบการไม่ใส่ใจ จ่ายค่าปรับไปไม่เดือดร้อน แล้วก็ทำอีก" ภญ.ศรีนวล เอ่ย
          นอกจากนี้ ด้วยความที่ อย. ไม่สามารถทำงานได้โดยลำพัง อย่างกรณีออนไลน์ ก็ต้องทำงานกับกระทรวงไอซีที ส่วนถ้าเป็นทีวีดาวเทียมซึ่งเป็นปัญหาไม่แพ้กันนั้น ก็ทำงานเคียงไปกับ กสทช. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล อีกทั้งยังมีจุดที่ทับซ้อนกันอย่างการขายสินค้าในเว็บไซต์ซึ่งเข้าข่ายการ "ธุรกิจตลาดแบบตรง" ซึ่งต้องจดทะเบียนต่อ สคบ. ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 อีกด้วย
          "ต้องยอมรับว่า ความร่วมมือระหว่างเรากับ ไอซีที ค่อนข้างจะมีปัญหา เพราะเขาไม่ค่อยแอ็กทีฟ ไล่ตามปิดไม่ค่อยทัน แถมต่อให้ปิดแล้ว เขาก็หนีไปเปิดเว็บใหม่ได้ง่ายๆ แล้วที่น่ากลัวคือ ธุรกิจนี้เม็ดเงินมันมหาศาลมาก แถมยังซื้อขายกันนอกระบบ ก็อยากขอความช่วยเหลือจากสรรพากรด้วยเหมือนกัน ให้ช่วยตรวจสอบด้วย แทนที่จะไปนั่งนับชามก๋วยเตี๋ยว ก็อยากให้มาดูแลตรงนี้หน่อย" ภญ.ศรีนวล ระบาย'คิด' ก่อน ซื้อ
          อาจต้องยอมรับอย่างจำใจว่า ด้วยกลไกภาครัฐที่ติดขัดตามที่รองเลขาธิการ อย. ว่ามานั้น เป็นผลให้ เราๆ ท่านๆ นี่แหละที่ต้องดูแลตัวเอง เพราะจะรอให้หน่วยงานรัฐทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์คงไม่ได้ ฉะนั้น ภญ.ศรีนวล เลยฝากคำแนะนำมา โดยประเด็นแรก อาหารเสริมไม่ใช่ยา"คือ ขอให้ท่องให้ขึ้นใจว่า และไม่มีทางจะเป็น "ยา" ไปได้ ฉะนั้น ถ้าใครจะมา บอกว่า ทานแล้ว รักษาโน่นนี่นั่นได้ ถือเป็นการหลอกลวง
          "เวลาเห็นโฆษณาสินค้าทำนองนี้ ให้ดูให้ดีว่า ข้อมูลที่เขาให้มามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีเลขที่ ใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือเปล่า ต้องอ่านฉลากก่อนซื้อและถ้าเป็นไปได้ ก็ให้ตรวจสอบโดยอาจจะโทรไปถามที่สายด่วน อย. 1556 หรือจะเช็คเองก็ได้ที่เว็บไซต์ของเรา" ภญ.ศรีนวล เอ่ยย้ำเสริมด้วยความเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ จากโรงพยาบาลบางปะกอกที่แนะว่า ก่อน 9 จะทานอะไรควรตรวจสอบที่มาที่ไปเสียก่อน ไม่ใช่ พญ.พิมพ์ชนก บุษกรเรืองรัตน์ดูความนิยม หรือคิดว่า ดาราคนนี้ทานแล้วสวย จึงทานบ้าง โดยจะให้ดีถามผู้รู้อย่างคุณหมอได้เป็นดี ที่สุด
          นอกจากนี้ คุณหมอพิมพ์ชนก ยังร่วมฟันธงอีกด้วยว่า วิธีการสกรีนที่ดีและง่ายที่สุด คือ อะไรที่พยายามโอ้อวดว่า "เห็นผลไว" นั้น ให้หลีกเลี่ยงก่อนเลย เพราะในทางการแพทย์ไม่มีอะไรที่เห็นผลได้เร็วขนาดนั้น โดยเฉพาะจากการกิน เนื่องจากอาหารเสริมที่ทาน เข้าไปมันไม่ได้ไปทำงานตรงจุด เช่นตรงไปทำให้หน้าใสเลยนั้น ถือว่าเป็นไปไม่ได้ และมีโอกาสสูงมากที่สินค้าตัวนั้นจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ซึ่งหากทานมากไปจะส่งผลเสียต่อร่างกาย
          ...แน่นอนว่า อยากสวย อยากหล่อ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าลืมใช้สมอง และสติ ควบคู่กันไปด้วย แต่สำหรับ ดารา-คนดัง ผู้เป็นต้นเรื่องนั้น ก็เข้าใจอยู่ว่า กว่าจะดังขึ้นมาได้ ของแบบนี้มันต้องมี 'ต้นทุน'
          แต่การจะถอนทุนด้วยการ 'ขาย' อย่างไม่ลืมหูลืมตา คงต้องขอถามสักหน่อยว่า "ความรับผิดชอบ" สะกดเป็นไหม?
          เมื่อ IC มีเหรียญอีกด้านเป็นพื้นที่ขายของ แต่ซ้าร้ายไปกว่านั้นยังเลยเถิดกลายไปเป็นช่องทางทามาหากินเมื่อ IG มีเหรียญอีกด้านเป็นพื้นที่ขายของ ของเหล่า "ยาอันตราย" ที่เหล่าแฟนคลับจะมีแต่ชเสีย" กับ "เสีย"


pageview  1205958    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved