หลักในการมีอายุยืนยาว นอกจากจะต้องดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ดำเนินอยู่บนสภาวะสมดุลย์แล้ว เราคงเคยได้ยินคำว่า "การหัวเราะเป็นยาอายุวัฒนะ" กันจนคุ้นหู ดังนั้น หน่วยงานด้านจิตเวช และหน่วยงานด้านสาธารณสุข จึงร่วมกันรณรงค์ให้ชาวไทยมีสุขภาพที่ดีจากการหัวเราะวันละนิด เพื่อให้จิตแจ่มใส
          และเมื่อศาสตร์การหัวเราะบำบัด ผนวกกับการออกกำลังกายด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออกแบบโยคะ จึงเกิดเป็น "โยคะหัวเราะ" อีกหนึ่งวิธีใหม่ที่ใช้บำบัดความเครียดไปพร้อมๆ กับบำบัดสุขภาพร่างกาย ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับสถาบันหัวเราะแห่งประเทศไทยจัดงาน "สุขภาพดีสร้างง่าย สร้างได้แค่เสียงหัวเราะ" ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ โดยมีการเชิญวิทยากรของทีม ดร. มาดาน คาตาเรีย เจ้าของศาสตร์โยคะหัวเราะแห่งแรกของโลก เป็นผู้แนะนำเทคนิคการเล่นโยคะหัวเราะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
          วินเนอร์-อรุต ธนาสุวรรณดิถี วิทยากรจากสถาบันหัวเราะฯ เล่าให้ฟังว่า การหัวเราะแบบโยคะเรียกว่า ปราณยามะ ซึ่งการหัวเราะนั้น คือ การหายใจออกเมื่อนำมาผสมผสานกับหลักการของโยคะ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ใช้การกำหนดลมหายใจ จะทำให้ร่างกาย และสมองปลอดโปร่งจากการได้รับออกซิเจนเต็มที่ ในขณะเดียวกันปอดจะได้รับออกซิเจนขณะหายใจเข้าเมื่อลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ และปริมาณออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเต็มที่ จะทำให้เรามีความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และหายใจได้สะดวกขึ้น
          "การเปล่งเสียงหัวเราะ ปรบมือ และเคลื่อนไหวตามจังหวะ คือ การฝึกหายใจด้วยกระบังลม ทำให้หายใจได้มากขึ้นและกระตุ้นจุดสัมผัสของสื่อประสาทที่ปลายนิ้วมือ ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีและกระตุ้นความตื่นตัวของสมอง ทำให้รู้สึกเบิกบานสนุกสาน หากฝึกอย่างต่อเนื่อง 10 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้เท่ากับออกกำลังกาย 30 นาที" วินเนอร์กล่าว
          โยคะหัวเราะ ปิดท้ายด้วยการใช้จินตนาการสมมติแบบเด็กๆ เพื่อทำให้จิตมีความสุข อย่างเช่น สมมติตัวเองว่า เป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ซึ่งจะเป็นการส่งพลังให้สมองซีกซ้ายทำงานได้อย่างเต็มที่ จินตนาการยังช่วยเป็นการฝึกจิตให้มองโลกในแง่ดี สามารถเรียกสติ จิตวิญญาณ และปรัชญาในการใช้ชีวิตกลับคืนมาได้อีกด้วย
          โยคะหัวเราะนั้น ใช้เวลาปฏิบัติเพียงไม่กี่นาทีในการฝึกกำหนดลมหายใจ ฝึกสมาธิ และปลดปล่อยให้จินตนาการล่องลอยไปตามความสนุก แต่ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากร่างกายจะแข็งแรงแล้ว สุขภาพจิตยังดีขึ้น ทำให้มีอารมณ์แจ่มใสและพร้อมเผชิญหน้ากับการงานในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่
          "ความพิเศษของ โยคะหัวเราะ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นยารักษาโรคที่ไม่มีราคา และดีที่สุด เนื่องจากระหว่างที่เราฝึกนั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยระงับความเจ็บปวด ถึง 3 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน ( Endorphine) ช่วยลดความเจ็บปวด และรู้สึกผ่อนคลาย ฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) เพิ่มประสิทธิภาพการจำและการเรียนรู้ กระตุ้นการตื่นตัวของสมอง ควบคุมอารมณ์ และฮอร์โมนซีโรโทนิน(Serotonin) ช่วยคลายความเครียด และกระตุ้นความสุข"วินเนอร์กล่าว