นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) และ ผอ.กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วประเทศมีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือเสริมความงาม ที่ขึ้นทะเบียนกับกรม สบส.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เกือบ 3,000 แห่ง และแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงมีการแข่งขันจัดโปรโมชั่น ขึ้นป้ายโฆษณาดึงดูด ซึ่งตามกฎหมายไม่ห้ามโฆษณา แต่ต้องไม่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง หรือส่อลามกอนาจาร โดยเฉพาะอวดอ้างสรรพคุณว่ารักษาหรือป้องกันโรคได้ห้ามโดยเด็ดขาด
          ทั้งนี้ การนวดเพื่อบำบัด รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพโดยใช้ศาสตร์นวดไทยนั้น หากขาดความชำนาญก็อาจจะทำให้ฟกช้ำ กล้ามเนื้ออักเสบ บวมแดง หรือกระทบต่อโรคประจำตัวผู้รับบริการได้ จึงต้องทำในสถานพยาบาลและรับบริการจากแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยเท่านั้น การโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคอาทิ ไมเกรน เกาต์ รูมาตอยด์ กระดูกทับเส้น  จึงเป็นเท็จโอ้อวดเกินจริง หากตรวจพบจะสั่งให้แก้ไขในระยะเวลาที่กำหนด โดยมีโทษถึงขั้นพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต