นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) กล่าวว่าจากการสำรวจของหน่วยงานยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(Euromonitor International) พบว่าตลาดวิตามิน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในไทยในปี 60 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็นมูลค่าการตลาดกว่า 53,800 ล้านบาทซึ่งประชาชนรับรู้ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้รวดเร็ว เข้าถึงได้หลายช่องทาง จึงเป็นห่วงว่าจะขาดการศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน รับฟังเฉพาะข้อดี คิดว่าจะเป็นทางลัดมีสุขภาพที่แข็งแรง จนขาดการดูแลพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม บริโภคอาหารหลักไม่เพียงพอไม่ครบ 5 หมู่ หรือคิดว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะป้องกันโรคได้ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานนอกเหนือจากอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่าง มักเป็นเม็ดแคปซูลผงหรือของเหลว ฯลฯโดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้สำหรับคนสุขภาพปกติ มิใช่สำหรับผู้ป่วยรวมทั้งไม่มีผลป้องกัน และรักษาโรค
          ทั้งนี้ การมีสุขภาพดีต้องสร้างเอง อาจเริ่มที่ปรับพฤติกรรมสุขภาพใน 3 เรื่องหลักคือ 1.รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ผัก-ผลไม้วันละ 400 กรัมขึ้นไป เลี่ยงอาหารหวาน มันเค็ม งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ 20-30% ทั้งชะลอวัยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค 2.ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ช่วยลดความเสี่ยงและเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังและคลายเครียด 3.นอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอปรับสมดุลฮอร์โมนร่างกายซึ่งจะเป็นพื้นฐานการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนโดยไม่ต้องพึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเสียค่าใช้จ่าย