นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์เผยโรคไตอาจเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดไต หลอดเลือดฝอยในไตเนื้อเยื่อ กรวยไต-ท่อไต
          อาการสำคัญ บวม ปัสสาวะสีคล้ายน้ำล้างเนื้อ-เป็นเลือดสดเป็นฟอง-ขุ่น ปัสสาวะบ่อยกลางคืน ปวดหลัง
          หากเป็นรุนแรงจะปัสสาวะออกน้อย ซีดอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้จากน้ำท่วมปอด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ คันผิวหนัง เลือดออกง่ายหยุดยากกล้ามเนื้อกระตุก ไม่มีแรงเป็นมากอาจซึม ชัก หมดสติ ใจเต้นผิดจังหวะ หรือหยุดเต้น และเสียชีวิตได้
          ผู้มีความเสี่ยงสูงควรคัดกรองโรคไตเรื้อรังคือ อายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน ความดันสูง แพ้ภูมิตนเองที่อาจก่อให้เกิดไตผิดปกติ โรคติด
          เชื้อในระบบที่อาจก่อให้เกิดโรคไต หัวใจและหลอดเลือด
          เกาต์ ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบนซ้ำหลายครั้งได้รับยาแก้ปวดกลุ่มNSAIDsหรือสารพิษที่ทำลายไตเป็นประจำ มี
          มวลเนื้อไตลดลงหรือมีไตข้างเดียวทั้งที่เป็นแต่กำเนิดหรือเป็นภายหลัง มีประวัติโรคไตเรื้อรังในครอบครัว พบนิ่วในไต-ระบบทางเดินปัสสาวะ พบถุงน้ำในไตมากกว่า 3 ตำแหน่ง
          ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงควรได้รับการตรวจคัดกรอง หากพบระยะแรกๆ สามารถชะลอไตเสื่อมได้
          การรักษาโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายมี 3 วิธีมาตรฐานคือ ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ฟอกเลือดทางช่องท้อง และผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งวิธีรักษาแต่ละรายมีข้อจำกัดต่างกัน ขึ้นกับร่างกายและดุลพินิจแพทย์..