ศปถ.เผยสถิติอุบัติเหตุ 4 วัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตาย 210 ราย บาดเจ็บ 2,288 ราย พบเด็กและเยาวชนเสียชีวิต 39 ราย จากการขี่มอเตอร์ไซค์ สั่งทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์กำชับพ่อแม่ผู้ปกครองสอดส่องดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ลดความสูญเสียขณะที่ สธ.สั่งทุกโรงพยาบาลเตรียมพร้อม รับมืออุบัติเหตุช่วงประชาชนทยอยเดินทางกลับ สลด เก๋งเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง ตายยกครัว 4 ศพสาหัส 2 ราย
          เมื่อวันที่ 15 เม.ย.55 นายศุภกรวงศ์ปราชญ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานแถลงข่าวเปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่14 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์"สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์" เกิดอุบัติเหตุ 580 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 66 คนผู้บาดเจ็บ 620 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ45.17 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ23.10 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.58 รถปิกอัพร้อยละ 11.93 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่การโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 26.97
          สำหรับพื้นที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 6 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด,ยโสธร, หนองคาย และหนองบัวลำภูจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 27 ครั้ง จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต41 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ จังหวัดละ 5 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 11 จังหวัดจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่เชียงราย26 คน
          นายศุภกร กล่าวต่อว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน ระหว่าง วันที่ 11 -14 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 2,134 ครั้งผู้เสียชีวิต 210 คน ผู้บาดเจ็บ 2,288 คนจังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 3 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร หนองคาย และหนองบัวลำภูจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 17 จังหวัดจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ มี 5 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่เชียงราย94 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดได้แก่ พิจิตร 9 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 94 คน
          อย่างไรก็ตาม จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา พบมีเด็กและเยาวชนเสียชีวิต 39 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการขี่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 53.85 นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลยังพบว่า เด็กและเยาวชนที่กระทำผิด ถูกดำเนินคดีที่เป็นสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงหลัก ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัยเมาสุรา และขับรถเร็ว มีมากถึง 30,027 คนสะท้อนให้เห็นว่าปีนี้สถานการณ์อุบัติเหตุในกลุ่มเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้จังหวัดกำชับและประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด หากเด็กและเยาวชนกระทำความผิดจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนที่สร้างอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น พ่อแม่ ผู้ปกครองจะได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
          ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรแพทย์ พยาบาล ทีมกู้ชีพ ตลอดจนคลังเลือด อุปกรณ์ทางการแพทย์ ห้องผ่าตัดและเตียงผู้ป่วย เพื่อรองรับสถานการณ์หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในช่วงที่ประชาชนทยอยเดินทางกลับ โดยได้ประสานงานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่อยู่ในเส้นทางหลักของทุกภาคให้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านตลอด24 ชั่วโมง
          ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนให้ผู้ทำหน้าที่ขับรถให้พักผ่อนร่างกายให้เพียงพอก่อนเดินทาง งดดื่มแอลกอฮอล์ คาดเข็มขัด และสวมหมวกนิรภัย หากเกิดอาการเพลียหรือง่วงให้จอดรถหยุดพักแล้วค่อยเดินทางต่อ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการที่คนขับรถหลับใน
          วันเดียวกัน เมื่อเวลา 07.30 น.ร.ต.อ.สดใส ลาลุด ร้อยเวรสอบสวนสภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ริมถนนหนองคาย- โพนพิสัย ทางเข้าบ้านหมากก่อง ต.บ้านเดื่อจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน ภว 6000 กรุงเทพฯ พลิกตะแคงขวางถนน สภาพพังยับทั้งคัน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 3 คน เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลหนองคายทราบภายหลังชื่อนายสุเทพ ครองยุติ อายุ39 ปี นายสรรเพชญ สัมพันธรัตน์ อายุ21 ปี และ ด.ญ.วัย 2 ขวบ ไม่ทราบชื่อลูกสาวของนายสุเทพแต่นายสรรเพชญทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
          นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบศพนางกรรณิการ์ ครองยุติ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายสุเทพ ซึ่งตั้งครรภ์ 3 เดือน ด.ช.ภาโย ครองยุติ อายุ 4 ขวบ ลูกชายของนางกรรณิการ์ และน.ส.จริญญาธรรมฤทธิ์ อายุ 24 ปี
          สอบสวนทราบว่า ทั้งหมดเป็นญาติกัน โดยนายสุเทพ และนางกรรณิการ์เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ส่วนน.ส.จริญญา ทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ชักชวนมาเที่ยวสงกรานต์บ้านญาติที่บ้านเดื่อ โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเพื่อเข้าตัวเมืองหนองคาย เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว