HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
สยามรัฐ [ วันที่ 06/12/2556 ]
เตือน3โรคเสี่ยงหนาวคร่าชีวิตเชียงรายเย็นจัด
 "เหนือ-อีสาน" อากาศหนาวเย็นชาวเขาจ.เชียงรายต่างผิงไฟบรรเทาความหนาว "สธ." เตือนผู้ป่วย "เบาหวานความดัน-หัวใจ"ระวังอาการกำเริบ เสี่ยงเสียชีวิตฉับพลัน แนะดูแลสุขภาพ เป็นพิเศษ ทั้งอาหารการกิน ออกกำลังกายทำร่างกายให้อบอุ่น และกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
          เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.56 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยยังคงมีกำลังอ่อนลงทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะนี้ สำหรับในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้อุณหภูมิจะลดลง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศหนาวเย็นถึงหนาวมาก
          ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อากาศหนาวเย็นที่ปกคลุมภาคเหนือว่าที่จ.เชียงราย กลุ่มชาวเขาในพื้นที่ ต.แม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง ต่างก่อกองไฟผิงไฟบรรเทาความหนาวเย็นเนื่องจากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสนอกจากนี้ จากสภาพอากาศหนาวเย็นทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งตัวหรือแม่คะนิ้งเกาะตามยอดหญ้าในพื้นที่ บ้านหัวแม่คำ หมู่ที่ 4 ต.แม่สลองใน อีกด้วย
          ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสภาพอากาศของประเทศไทยที่หนาวเย็นลงโดยเฉพาะในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือจะหนาวเย็นกว่าภาคอื่นๆ กลุ่มประชาชนที่น่าห่วงคือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคหัวใจ โรคหอบหืด มีภูมิต้านทานต่ำอยู่แล้ว และมีแนวโน้มเสียชีวิตจากภัยหนาวสูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีโรคประจำตัว
          "โดยปกติผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังต้องดูแลตนเองใน 3 เรื่องสำคัญคือ อาหาร การออกกำลังกาย และกินยาควบคุมอาการอยู่แล้ว แต่เมื่อถึงฤดูหนาว ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งมีประมาณ 6 ล้านคน ต้องเพิ่มการดูแลตนเองเป็นพิเศษ เนื่องจากเมื่ออากาศหนาวเย็น ความชื้นในอากาศลดลง ผิวหนังจะแห้งและคัน เมื่อเกาจะทำให้ผิวหนังอักเสบง่าย โดยในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน เมื่ออากาศเย็นลงระดับน้ำตาลสะสมในเลือดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ อุณหภูมิที่ลดลงจะเพิ่มความเครียดมีผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยอุณหภูมิที่ลดลง 1 องศาเซลเซียส จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจเฉียบพลัน (Heart attack) ได้ถึงร้อยละ 2" นพ.ณรงค์ กล่าว
          นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ในการดูแลสุขภาพ ขอให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวดังนี้ 1.ดูแลร่างกายให้อบอุ่น โดยการสวมหมวกไหมพรม เสื้อคลุมกันหนาว ใส่ถุงมือถุงเท้า และรองเท้าที่ใส่สบาย ควรทาผิว
          ด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์วันละหลายๆ ครั้ง เพื่อป้องกันการ
          สูญเสียน้ำและผิวแห้ง ในผู้สูงอายุและผู้ที่มีความเสี่ยงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่มีคนแออัด การระบายอากาศไม่ดี2.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่รสไม่จัด หลีกเลี่ยงขนมหวานอาหารไขมันสูง เลือกอาหารปรุงสุกแล้ว
          รวมทั้งธัญพืช ผัก ผลไม้สดที่หวานน้อยเนื่องจากมีวิตามิน แร่ธาตุสูง ช่วยให้ผนังเซลล์แข็งแรงและเสริมสร้างภูมิต้านทาน
          โรค ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราเพื่อแก้หนาวเพราะไม่สามารถช่วยได้ และจะ
          ทำให้เกิดการขาดน้ำอย่างรุนแรง อาจเสียชีวิตได้ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้โรคที่มีอยู่เดิมกำเริบขึ้นได้
          3.ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
          สามารถออกกำลังกายในที่ร่ม เช่น โยคะเต้นแอโรบิก หรือในที่กลางแจ้งในช่วงที่ไม่มีแดดจัดและไม่มีลมพัดแรง สำหรับผู้สูงอายุควรออกกำลังกายโดยการเดินเร็วหรือยืดเหยียดร่างกาย 4.หมั่นตรวจเช็กค่าความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 5.รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด 6.พักผ่อนให้เพียงพอ โดยสวมใส่ชุดนอนที่อบอุ่นและห่มผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

pageview  1205927    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved