HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
สยามรัฐ [ วันที่ 04/10/2556 ]
อุตุฯเตือนหวู่ติ๊บแผลงฤทธิ์น้ำทะลักท่วมรพ.ปราจีนฯเร่งอพยพผู้ป่วยโกลาหลแจงตายพุ่ง23ศพ/นาล่ม2ล้านไร่เวียดนาม-เขมรอ่วมดับกว่า50ราย

  "ปลอดประสพ" เล็งผุดเขื่อนล้อมกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศป้องน้ำท่วม "ชัชชาติ" สั่งตั้งวอร์รูมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแก้ปัญหาเส้นทางสัญจร เผย นายกฯ สั่ง กบอ. เชิญผู้เกี่ยวข้องถกสร้างเขื่อนแม่วงก์ ปภ.เผยผลกระทบอุทกภัย เดือดร้อนเฉียดล้านครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 2 ล้านไร่เสียหายยับถนนกว่า 170 สายพินาศ ผู้เสียชีวิต23 ราย ขณะที่ ฝ่ายค้าน จ่อ!ญัตติเรื่องความล้มเหลวแก้น้ำท่วม 3 ต.ค.นี้ ผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำที่เขื่อนพระราม 6 เมืองกรุง เก่า ระบุยังไม่น่าวิตกรร.สวายสอ จ.บุรีรัมย์ ยังจมหนัก เลื่อนสอบไม่มีกำหนด ล่าสุด ประกาศภัยพิบัติเพิ่มอีก 1 อำเภอ เป็น 13 อำเภอกรุงเก่าท่วมแล้ว 8 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 1 แสนคน ด้านพายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ"ซัดเรือไฟนครพนมเตรียมไหลโชว์ช่วงเทศกาลออกพรรษายาวกว่า 100 เมตรพัง พายุไต้ฝุ่น"หวู่ติ๊บ"ถล่มเวียดนาม-กัมพูชา ยอดตายแล้ว 50 ราย ขณะที่อุตุฯเตือนหวู่ติ๊บถึงไทยอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมภาคเหนือ รับมือฝนตกหนัก ล่าสุด น้ำท่วม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ปราจีนฯ อยู่ระดับ 3 จ่อย้ายผู้ป่วยหนัก 41 ราย ออกนอกพื้นที่สลด! อ.กบินทร์บุรี เด็ก-ผู้สูงอายุจมน้ำตายแล้ว 2
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 ต.ค.56 นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำ อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ลดลงแล้ว ส่วน อ.ศรีมหาโพธิ เริ่มลดลง ขณะที่อ.เมืองปราจีนฯมีฝนตกเพิ่ม หาก 1 สัปดาห์จากนี้ไม่มีฝนตกเพิ่ม ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง ตอนนี้ต้องดูแลพื้นที่เศรษฐกิจให้อยู่ก่อน โดยจะทำเขื่อนล้อม 3 เมือง คือ เทศบาลกบินทร์บุรี เทศบาลปราจีน เทศบาลศรีมหาโพธิ ภายใต้งบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้เหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเหมือนครั้งนี้ นอกจากนั้นจะสร้างเขื่อนในลักษณะเดียวกับ จ.ปราจีนบุรี อีกประมาณ 50 อำเภอ ทั่วประเทศตนยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ปราจีนบุรีถือว่าหนักที่สุด และเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
          นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาอุทกภัยระดมความช่วยเหลือไปในพื้นที่ที่เกิดภาวะอุทกภัยซึ่งล่าสุดได้มอบหมายให้นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดคมนาคม ตั้งวอร์รูมเพื่อเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเหตุและจัดแบ่งความช่วยเหลือไปในแต่ละพื้นที่ โดยวอร์รูมจะมีทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อให้เข้าช่วยเหลือทั้งการนำสะพานชั่วคราวเข้าพื้นที่ หรือเรือเพื่อการสัญจร
          นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกฯแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า นายกฯได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย และ กระกรวงกลาโหม ที่สามารถบูรณาการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้นำอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ เครื่องสูบน้ำ ไปไว้ที่ ศูนย์ส่วนหน้าเพื่อแจกจ่ายดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จำเป็นต่อไป นอกจากนี้ นายธีรัตถ์ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีได้ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. และสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีเชิญผู้เกี่ยวข้องเรื่องโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ร่วมแสดงความเห็นถึงผลดีและผลเสียของโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ยืนยันว่าทางรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมต่อไป
          นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฯ ของกระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานข้อมูลสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม (1 ต.ค.56) มีจำนวนทั้งสิ้น 7 จังหวัด พบว่าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม 39 ราย ประกอบด้วยจังหวัดอุบลราชธานี 9 ราย ศรีสะเกษ13 ราย สุรินทร์ 1 ราย นครนายก 4 รายปราจีนบุรี 5 ราย จันทบุรี 1 ราย สุพรรณบุรี 6 ราย และเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน 14 ราย ในจังหวัดนครนายก 4 ราย สุพรรณบุรีและปราจีนบุรี จังหวัดละ 5 ราย
          สถานประกอบการที่ได้รับความเสียหายจนต้องหยุดประกอบกิจการมี 4 จังหวัด อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีจันทบุรีสุพรรณบุรี และปราจีนบุรี เนื่องจากพื้นที่อาคารโรงงานไม่สามารถประกอบกิจการได้ รวมทั้งความไม่สะดวกในการขนส่งวัตถุดิบและการเดินทางของแรงงาน ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4 ล้านบาท
          ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปค้าน) แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 3 ต.ค.นี้พรรคประชาธิปัตย์ จะเสนอญัตติด่วนเรื่องความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล
          วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณีอากาศ เมื่อเวลา 13.00 น.ว่าพายุดีเปรสชัน "หวู่ติ๊บ" (WUTIP) ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว ในบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และ เพชรบูรณ์ และเมื่อเวลา 16.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำได้ปกคลุมบริเวณบริเวณภาคเหนือลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่2-6 ตุลาคม 2556 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก ในบางพื้นที่
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.56 ถึงปัจจุบันเกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 32 จังหวัด 234 อำเภอ 1,402 ตำบล 11,219 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ817,856 ครัวเรือน 2,804,085 คน บ้านเรือนเสียหาย 13,971 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 2,040,211 ไร่ ถนน4,269 สาย สะพาน 179 แห่ง ฝาย/ทำนบ515 แห่ง ผู้เสียชีวิต 23 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 25 จังหวัด แยกเป็นน้ำป่าไหลหลาก 21 จังหวัด ได้แก่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 3 จังหวัดภาคตะวันออก 4 จังหวัด และแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่ง 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทองสิงห์บุรี และสุพรรณบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 21 อำเภอ 160 ตำบล 809 หมู่บ้าน แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแต่ยังต้องเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขามีระดับน้ำสูงขึ้น
          ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.กล่าวภายหลังลงตรวจระดับน้ำที่เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าขณะนี้เขื่อนพระราม 6 และประตูน้ำพระนารายน์ ซึ่งเป็นระบบระบายน้ำสำคัญของกรมชลประทานในพื้นที่ต้นน้ำของกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกจากการที่กรมชลประทานได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำล่าสุด ก็เกิดความชัดเจนว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเนื่องจากสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับเขื่อนป่าสักทรงตัวน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนป่าสักมีประมาณ 400-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอยู่ในปริมาณที่สามารถรับได้ประกอบกับ ส่วนหนึ่งที่เป็นเขื่อนพระราม6 ก็ระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ประตูน้ำพระนารายณ์ก็ระบายลงคลองระพีพัฒน์ ตลอดจนไปถึงคลองแสนแสบจึงเชื่อว่า สถานการณ์จะห่างไกลจากเมื่อปี2554 จึงขอให้ชาวกรุงเทพมหานครอย่าห่วง อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปประมาณ3-4 วันข้างหน้า จะมีฝนตกหนักอีก ซึ่งกรมชลประทานมั่นใจว่า ยังอยู่ในปริมาณที่กรมชลประทานรับได้ รวมถึงดัชนียังอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
          ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังไม่คลี่คลายโดยเฉพาะโรงเรียนบ้านสวายสอ "ไกรปัญญานุเคราะห์"ต.ชุมแสง อ.กระสัง เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ยังถูกน้ำท่วมทั้งอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหารอาคารอเนกประสงค์และสนามรอบบริเวณโรงเรียน ตั้งแต่ 50 เซนติเมตรจนถึง 1 เมตร มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว และขณะนี้ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ทางโรงเรียนต้องเลื่อนการสอบวัดผลปลายภาคการเรียนที่ 1 ที่จะต้องสอบภายในสัปดาห์นี้ ออกไปโดยไม่มีกำหนดจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปิดทำการเรียนการสอนมาแล้ว 5 วัน อย่างไรก็ตามทางผู้อำนวยการโรงเรียน ก็จะได้หารือกับคณะครูและทางเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 อีกครั้งว่าจะจัดหาสถานที่สอบชั่วคราวแทนหรือจะเลื่อนการสอบออกไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลง เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะนักเรียนบางคนบ้านถูกน้ำท่วมและถนนเข้า-ออกหมู่บ้านต้องนั่งเรือมาโรงเรียน
          ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัยเพิ่มอีก 1 อำเภอ คือ อ.ลำปลายมาศ หลังน้ำจากลำน้ำมาศได้เอ่อท่วมบ้าน วัด ถนนและนาข้าว รวมล่าสุดขณะนี้ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเป็น13 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 37,500 ครัวเรือน
          ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(ปภ.) รายงานว่า พื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำ ถูกน้ำท่วมแล้ว 8 อำเภอ ได้แก่อ.บางบาล เสนา ผักไห่ บางไทร บางปะอินพระนครศรีอยุธยา ท่าเรือ และ นครหลวงรวมทั้งหมด 99 ตำบล 584 หมู่บ้านบ้านเรือน 29,140 หลัง ประชาชนได้รับผลกระทบ 97,324 คน มีวัดถูกน้ำท่วม 34 แห่ง โรงเรียน 27 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง โดยระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 1-2 เมตร และในบางแห่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมาก อาจท่วมลึกมากกว่า 2 เมตร เช่น บางหมู่บ้านของอ.บางบาล อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อาจมีระดับน้ำสูงเพิ่มขึ้นอีก 5-10 เซนติเมตร เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยน้ำในระดับสูงกว่า 2,195 ลบ.ม.ต่อวินาที และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปล่อยน้ำ 434 ลบ.ม.ต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ปล่อยน้ำ 494 ลบ.ม.ต่อวินาที
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ" ที่พัดผ่านมาทางเวียดนามเข้าไทยทาง จ.นครพนมเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนจนกระทั่งถึงเช้าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติฝนได้หยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ส่งผลกระทบต่อการเกิดน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำโขงอยู่ที่ประมาณ 7 เมตร ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก จึงไม่เกิดปัญหาน้ำทะลักเอ่อท่วม อย่างไรก็ตามพบปริมาณฝนตกมากสุดที่ อ.ศรีสงครามวัดได้ที่ประมาณ 180 มิลลิเมตร เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพความเสียหายที่ได้รับจากผลกระทบ มีเพียงเรือไฟของชาวบ้าน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนมที่ชาวบ้านได้เร่งดำเนินก่อสร้างเตรียมไหลโชว์ในช่วงวันออกพรรษา และเป็นเรือไฟไฮไลต์ในงานที่มีขนาดความยาวนับ 100 เมตร สูงประมาณ 30 เมตรทั้งนี้ได้ถูกพายุฝนซัดหลุดหายออกจากริมฝั่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบค้นหา ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความเสียหาย โดยชาวบ้านจะต้องออกค้นหาโครงสร้างเรือไฟที่เหลือเพื่อเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จทันงานออกพรรษา มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าแสนบาท ส่วนพื้นที่อื่นๆ ยังไม่พบรายงานผลกระทบ
          ล่าสุด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปราจีนบุรี และ ผอ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ว่าได้แบ่งสถานการณ์น้ำท่วมออกเป็น 4 ระดับ โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อยู่ในสถานการณ์ระดับที่ 3 คือน้ำท่วมรอบพื้นที่โรงพยาบาลประมาณ30-40 เซนติเมตร แต่ยังไม่ท่วมเข้าโรงพยาบาล
          หากสถานการณ์น้ำท่วมหนักถึงระดับ4 คือท่วมสูง 80-85 เซนติเมตร จะท่วมเข้าไปภายในโรงพยาบาลก็จะต้องย้ายผู้ป่วยหนักที่อยู่ในห้องไอซียูทั้งหมด 41 รายไปยังโรงพยาบาลอื่นใกล้เคียง โดยจะใช้รถบรรทุกของทหารหรือรถยีเอ็มซี(GMC) ในการขนย้ายผู้ป่วย เบื้องต้นได้มีการประสานไว้เรียบร้อยแล้ว
          "ขณะนี้ที่ อ.กบินทร์บุรี มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำท่วมแล้ว 2 ราย เป็น เด็ก1 คน และผู้สูงอายุ 1 คน จึงได้สั่ง การให้ทุกจังหวัดให้ความรู้ประชาชนในเรื่องการเล่นน้ำของเด็ก และการหาปลา ของผู้ใหญ่แล้ว สิ่งที่พื้นที่ร้องขอให้ สธ. ช่วยเหลือมี 2 ส่วนคือเรือส่งไปช่วยแล้ว 5 ลำและทีมแพทย์" นพ.ณรงค์ กล่าว
          ทางด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ" พัดถล่มพื้นที่ตอนกลางของประเทศเวียดนามเมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงถึง 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บ 35 รายนอกจากนี้ มีชาวประมงสูญหายอีกกว่า70 ราย
          รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวเวียดนามอีกราว 29,000 ราย ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนครั้งล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการอพยพไปยังที่ปลอดภัยแล้วหลายหมื่นคน
          พร้อมกันนี้ รายงานข่าวระบุว่า เหตุพายุ ไต้ฝุ่น "หวู่ติ๊บ" ยังส่งผลกระทบไปยังกัมพูชาที่ประสบกับเหตุอุทกภัยมานาน 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ให้เลวร้ายหนักขึ้นโดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 ราย

          บรรยายใต้ภาพ
          พิษหวู่ติ๊บ...สภาพความเสียหายของบ้านหลังหนึ่งใน ต.กวางนินห์ จ.กวางบินห์ ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม พังถล่มลงหลังถูกพายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บพัดกระหน่ำ พายุลูกดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


pageview  1205849    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved