"ราชทัณฑ์ - ตำรวจ- ป.ป.ส." ผนึกกำลังกว่า 400 นาย บุกจู่โจม "คุกบางขวาง" กลางดึก ค้นเรือนนอน "นช.ตี๋"เครือข่ายยานรกพันล้านเมืองปุทมฯเจ้าตัวปฏิเสธลั่นไม่เกี่ยวข้อง ก่อนคุมเข้มแยกขังเดี่ยว ผงะอุปกรณ์มือถือซิมการ์ด เหล้าเกลื่อนเรือนจำ จนท.หวั่นย้ายขาใหญ่ไป "เขาบิน"สถานที่แออัด คุมไม่อยู่ ด้าน บช.น.ปูพรมค้น18 ชุมชนเป้าหมาย รวบ 60 ขี้ยา ของกลางเพียบ "เสก โลโซ" ใกล้หายคาดออกสถานบำบัดสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ปส.เมืองแปดริ้ว จับประธานสภา อบต.บางโรง ควงสาวเสพยาบ้าคาม่านรูด

          เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 3 ก.พ. 55 นายวิษณุ ประจงกิจ ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.นนทบุรี กว่า 400 นายเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางบางขวางจ.นนทบุรี ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล โดยการตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการตรวจค้นทั้งหมด 7 แดน ประกอบด้วยแดน 2 ถึงแดน 6 แดน 8 และแดน 10 ซึ่งได้ทำการตรวจค้นทั้งภายในเรือนนอน และบริเวณโดยรอบ พบโทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง เหล็กแหลม 30 อันมีดประดิษฐ์ 10 เล่ม อุปกรณ์การพนัน20 ชุด เครื่องเล่น DVD 5 เครื่อง ยาไอซ์0.03 กรัม สื่อลามก 27 ชุด และเหล้าแช่ที่นักโทษทำขึ้นเองจำนวนหนึ่ง

          ผบ.เรือนจำบางขวางกล่าวต่อว่าส่วน กรณีที่ นายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทได้ให้การซัดทอดว่า มีผู้ต้องขังภายในเรือนจำกลางบางขวางมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นหลังจากมีข่าวว่านักโทษในเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ได้ทำการสืบสวนกลุ่มนักโทษเป้าหมายในเรือนจำ พร้อมทั้งได้มีการสั่งย้าย นายพีรยุทธ แพทย์สกุล หรือนายตี๋ นักโทษชายไปแยกขังเดี่ยว ในแดน10 และให้ผู้คุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการติดต่อพูดคุยกับบุคคลอื่นได้เบื้องต้น นายตี๋ยังคงให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด

          นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังได้กล่าวถึงมาตรการของกรมราชทัณฑ์ที่มีแนวคิดคัดแยกนักโทษคดีอุกฉรรจ์ ไปควบคุมไว้ในเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ว่าอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเรือนจำบางขวาง มีนักโทษคดีประหาร จำนวน 600 คน จากนักโทษทั้งหมด 4,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องโทษคดียาเสพติด และเป็นผู้ค้ารายสำคัญ ตามปกติเรือนจำกลางบางขวางจะเป็นสถานที่ควบคุมตัวนักโทษคดีอุกฉกรรจ์อยู่แล้ว จึงเกรงว่าหากย้ายไปเรือนจำอื่นจะมีสถานที่ไม่เพียงพอรองรับ

          ที่เรือนจำกลางจังหวัดลำปางพ.ต.อ.พรชัย พักตร์ผ่องศรี รรท.ผบก.ภ.จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ วิชัยผอ.ฝ่ายควบคุมเรือนจำกลางลำปาง และเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย สุนัขตำรวจเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางลำปางซึ่งมีนักโทษถูกคุมขังจำนวน 1,612 คน เป็นชาย1,399 คน หญิง 222 คน จากการตรวจค้นเรือนนอนพบฝิ่นจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดและเครื่องชาร์จโทรศัพท์ ซ่อนอยู่บริเวณกันสาดนอกหน้าต่าง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้โทรเข้าและออก ใช้ติดต่อในทางผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด

          วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสองผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญพล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ พล.ต.ต.สุเมธเรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.มานิตย์วงศ์สมบูรณ์ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์รรท. รองผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รองผบก.น.3 ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเป้าหมาย เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ บก.น.1-9 จำนวน18 แห่ง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

          พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รรท. รองผบช.น. ควบคุมการปฏิบัติรับผิดชอบในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ บช.น.ระดมปิดล้อมตรวจค้นชุมชนในพื้นที่ บก.น.1-9 จำนวน 18 แห่ง เพื่อป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งผลการตรวจค้นสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ทั้งสิ้น 60 คน แบ่งเป็นคดีจำหน่ายยาเสพติดจำนวน 14 คนครอบครองเพื่อจำหน่าย 12 คน เสพยาเสพติด 31 คน จับกุมตามหมายจับยาเสพติดค้างเก่า 3 คน ผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืน 9 คน นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าได้ 1,472 เม็ดยาไอซ์ 39 กรัม กัญชา 2 ห่อ อาวุธปืน 6 กระบอก และเครื่องกระสุน 178 นัด

          พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่น่าสนใจเป็นผลงานการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หนองจอก พื้นที่บก.น.3ซึ่งสามารถจับกุมตัวนายกิตติพันธ์ แป้นอ้อย อายุ 25 ปี และนายฐานันดร คงจันทร์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและมีอาวุธปืนอาก้าไว้ในความครอบครอง โดยขยายผลมาจากการจับกุมผู้เสพรายย่อย การจับกุมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาในคดียาเสพติดมีอาวุธที่ร้ายแรงพร้อมที่จะใช้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา หลังจากนี้จะส่งอาวุธปืนไปทำการตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่าเคยนำไปใช้ก่อคดีมาก่อนหรือไม่

          พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่นและ สน.ทุ่งสองห้อง ยังได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์ต่อเนื่องได้3 ราย ประกอบด้วยนายเบ็นซ์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายเพชร (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายนิว (นามสมมติ)อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายร่วมกันก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งทั้งในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง สน.ประชาชื่น สน.ทองหล่อ และสน.บุคคโล ก่อนหน้านี้ได้รับการประกันตัวออกมา แต่ก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก นอกจากนี้ แนวทางการสืบสวนยังทราบว่าน่าจะอยู่ในแก๊งเดียวกันกับผู้ต้องหาที่ชิงทรัพย์ลูกชายของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.3 และลูกชายนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลังจากนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วินัย ยิ้มละมัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา(หน.ปส.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา) ได้รับแจ้งว่า มีชายหญิง 2 คน เปิดห้องพักหมายเลข 3 โรงแรมเลิฟอิน ในเขตเทศบาลบางคล้าเสพยาเสพติด จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบนางไพเราะหรือตุ๊ก ทองอยู่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 ม.4 ต.บางโรงอ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา และนายวัชระ หรือระ งามศิริ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.6 ต.บางโรง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา กำลังนั่งเสพยาเสพติดอยู่บนเตียงนอน จึงควบคุมตัวเอาไว้

          จากการตรวจค้นในกระเป๋าสตางค์ของนายวัชระ พบของกลางยาไอซ์ ชนิดเกล็ดสีขาวน้ำหนัก0.80 กรัม ยาบ้า 5 เม็ด เงินสด 2,000 บาท บัตรเอทีเอ็มบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และบัตรประจำตัวข้าราชการการเมืองระบุตำแหน่ง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบางโรง อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมอุปกรณ์การเสพ จึงควบคุมตัวไปสอบสวน

          เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาเสพติดมาจากนายสุทัศน์ ไม่ทราบนามสกุลไว้เพื่อเสพจริง จึงนำตัวส่งพ.ต.ท.นภดล นาคจู พนักงานสอบสวนสบ 3 สภ.บางคล้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          ความคืบหน้ากรณี นายเสกสรรศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ร็อกเกอร์หนุ่มขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งถูกอดีตภรรยาโพสต์ภาพกำลังเสพยาเสพติดลงเว็บไซต์ และต่อมานักร้องดังได้แถลงข่าวยอมรับจากนั้นเข้ารับการบำบัดที่สถาบันธัญญารักษ์ ล่าสุด แพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ว่า ขณะนี้อาการของ เสกโลโซ ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการรักษา การรับประทานยา รับประทานอาหารเสริม และการพักผ่อนที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อยาและการบำบัด คาดว่าเสก โลโซจะสามารถออกจากสถาบันธัญญารักษ์ได้ในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

          ส่วนคดีสองพี่น้องลูกชายอดีตดาวร้ายชื่อดัง "เกชา เปลี่ยนวิถี" คือ นายเรชา เปลี่ยนวิถี อายุ 45 ปี และ นายเมชา เปลี่ยนวิถี อายุ 47 ปี ที่ถูกจับพร้อมของกลางยาไอซ์ 4 กรัม และกัญชาจำนวนหนึ่ง ได้ที่บ้านเลขที่ 282/33 ,282/34,282/35 ซึ่งปลูกอยู่ในรั้วเดียวกัน ภายในซอยลาดพร้าว 87 แยก 6 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ทางพ.ต.ท.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผกก.กก.สายตรวจ บก.สปพ. กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่บก.สปพ. จากการสอบสวนนายเรชา ให้การรับสารภาพว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครองจริงโดยเสพมานานหลายปีแล้วส่วนนายเมชา ให้การปฏิเสธ และจากการตรวจปัสสาวะไม่พบสีม่วงแต่อย่างใดจึงแจ้งข้อหานายเรชา มียาเสพติดไว้ในครอบครอง ส่วนนายเมชา แจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลาง ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีต่อไป

          ด้าน พ.ต.ท.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิรอง ผกก.สส.สน.โชคชัย เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนของ สน.โชคชัย ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาแล้ว ส่วนเรื่องการประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

          รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวชลบุรีได้พบธนบัตรใบละ 1,000 บาทถูกฉีกทิ้งลงถังขยะมูลค่านับล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปตวจสอบต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นเงินผิดกฎหมาย