ปัญหาเรื่องการกลืนพบบ่อยในผู้สูงอายุ
          นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ระบุด้วยระบบการทำงานต่างๆ เสื่อมลงรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการกลืนในวัยสูงอายุ ซึ่งกลไกในการกลืนในผู้สูงอายุแบ่งเป็น 3 ระยะ
          1.ระยะช่องปาก ผู้สูงอายุไม่มีฟันและกำลังกล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวลดลง ทำให้ใช้เวลาบดเคี้ยวเพิ่มขึ้น กำลังการประสานการทำงานของริมฝีปากและลิ้นลดลง ทำให้กระบวนการเตรียมอาหารและการส่งผ่านอาหารใช้เวลานานขึ้นและประสิทธิภาพลดลง
          บางรายอาจมีอาหารเหลือค้างในปากเป็นแหล่งสะสมเชื้อก่อโรคเสี่ยงภาวะปอดอักเสบ จากการสำลัก
          2.ระยะคอหอย การกลืนที่คอหอยจะเกิดช้ากว่าวัยอื่นทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดสำลักอาหารเข้าสู่ทางเดินหายใจได้
          3.ระยะหลอดอาหาร ระยะเวลาที่หูรูดหลอดอาหารส่วนต้นเปิดจะสั้นลง จึงมีอาหารเหลือค้างที่คอหอยเสี่ยงสำลักเข้าทางเดินหายใจ
          นพ.ประพันธ์ พงศ์คณิตานนท์ ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์เผยสาเหตุกลืนลำบากที่พบบ่อยของความผิดปกติของช่องปากและคอหอยคือโรคหลอดเลือดสมองและสมองเสื่อม
          แต่อาจมีสาเหตุจากภาวะอื่นๆ ได้แก่ โรคทางระบบประสาท โรคทางจิตเวช โรคพาร์กินสัน ที่ทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง กลืนอาหารยากขึ้น
          วิธีแก้ควรปรับอาหาร ได้แก่ อาหารอ่อนย่อยง่าย รสจืด
          รับประทานน้อยแต่บ่อยครั้ง ใช้ช้อนที่เล็กลง หลุมไม่ลึกทำให้ปริมาณรับประทานต่อคำลดลง รวมถึงปริมาณน้ำที่น้อยลงแต่ละคำจะลดสำลักได้
          ปัจจุบันมีนวัตกรรมสารเพิ่มความหนืดที่ผสมได้ทั้งอาหารเหลว-ของเหลวช่วยผู้มีปัญหากลืนลำบากใช้เทคนิคช่วยกลืนคือ จัดท่าให้ศีรษะและลำตัวผู้สูงอายุเพื่อให้ปลอดภัยในการรับประทานมากขึ้นดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อลดแบคทีเรียสะสม ลดเสี่ยงปอดอักเสบจากการสำลัก พบทันตแพทย์สม่ำเสมอเช็ดทำความสะอาดช่องปาก-ลิ้นหลังอาหารทุกมื้อ เอาอาหารที่ค้างออกให้หมดไม่ให้เกิดเชื้อราในช่องปาก