HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
โลกวันนี้ [ วันที่ 03/01/2557 ]
การเลือกขนมให้เด็ก
     สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (ร.พ.เด็ก)
          ด้วยอิทธิพลของสื่อ ขนมเด็กอาจจะเรียกเป็นปัจจัยที่ 5 หรือ 6 ของเด็กไปแล้ว ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพ่อแม่เองก็นับขนมเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่ง อาหารหลักก็ต้องตั้งหลักให้ดี อาหารหลักคืออาหารครบ 5 หมู่ และ 3 มื้อ ขณะนี้อาหารว่างในความหมายของมันก็คือ นอกเหนือจากอาหารหลัก ถ้าเป็นการเจริญเติบโตในเด็กแล้ว เด็กจะมีการใช้พลังงาน เช่น บางครั้งไปวิ่ง บางครั้งไปเล่น มีความจำเป็นต้องมีอาหารว่างต่างๆเหล่านี้เข้าไปชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว
          อาหารว่างที่ดีที่สุดก็คือ ผลไม้
          ขนมในอดีต วิถีไทยเดิมจะออกมาในรูปของขนมที่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวต้มมัด 1 ชิ้น มีข้าวเหนียว กล้วย ถั่วดำ ทุกสิ่งที่ออกมาจะเป็นโมเลกุลเชิงซ้อนในลักษณะที่เมื่อกินเข้าไปแล้วจะต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายก่อนถึงจะนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งผิดกับขนมในยุคปัจจุบันที่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม หรือความมันที่เพิ่มเติมเข้าไปแล้วออกมาในรูปของโมเลกุลเชิงเดี่ยว คือพลังงานที่กินเข้าไปสามารถดูดซึมได้เลย
          ขนมในยุคปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 4-5 ประเภทใหญ่ๆคือ 1.ขนมธรรมดาที่ไม่เคลือบน้ำตาล 2.ขนมกรอบเคลือบน้ำตาล 3.ลูกอมน้ำตาลหรือขนมเหนียวติดฟัน 4.ขนมโปรตีนอบแห้ง และ 5.ขนมไทย
          ขนมเด็กส่งผลต่อร่างกายคือ 1.กินขนมมากและกินอาหารหลัก 3 มื้อมาก จะทำให้เด็กอ้วน ซึ่งจะมีอันตรายตามมาอีกมากมาย 2.กินขนมมากแต่กินอาหารหลัก 3 มื้อน้อย จะทำให้เด็กผอม รวมทั้งอาจขาดวิตามิน เกลือแร่ ทำให้ซีด เลือดจาง หรือภาวะขาดสารอาหาร ความหวานทำให้อิ่มและกินอาหารมื้อหลักได้น้อยลง 3.ถ้ากินขนมแล้วไม่รู้จักดูแลฟันก็จะเกิดโรคฟันผุ ซึ่งส่งผลกระทบแง่ลบต่อสุขภาพตามมา 4.คนที่กินขนมรสหวานมันมักจะไม่ค่อยชอบกินผัก ผลไม้ ซึ่งมีกากใยอาหาร ทำให้เกิดปัญหาท้องผูก ปวดท้อง ถ่ายแข็ง ถ่ายยาก และ 5.อาจจะมีผลทางด้านจิตใจ มักจะมีบุคลิกลักษณะที่เสียไปด้วย เด็กมักจะมีความก้าวร้าว ถ้าเป็นเด็กที่มีการกินอาหารและฝึกวินัยในการกินที่ดีก็มักจะเป็นเด็กที่เติบโตอย่างมีอีคิวที่มีคุณภาพ
          หลักการเลือกขนมให้เด็กคือ 1.ควรเลือกขนมที่มีพลังงานไม่สูงมาก โดยเฉพาะขนมกรุบกรอบทั้งหลายหรือพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีซองเครื่องปรุงอยู่ ซึ่งจะได้โซเดียมเป็นส่วนเกิน ทำให้ไตต้องทำงานหนัก เพราะถ้ามีส่วนเกินของพวกนี้ร่างกายก็พยายามขับทิ้ง 2.ควรเลือกซื้อขนมที่มีสีธรรมชาติ ไม่ควรเลือกซื้อขนมที่ใส่สีฉูดฉาด 3.สารช่วยให้กรุบกรอบ และสารกันหืน (สารเคมี) พ่อแม่และพี่เลี้ยงไม่ควรซื้อให้กิน 4.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่ควรให้กินขนมประเภทลูกอม ลูกกวาด หรือถั่วเป็นเม็ดๆ เพราะอาจเป็นอันตราย เด็กอาจจะกลืนทำให้ติดหลอดคอ 5.ไม่ควรเลือกซื้อขนมที่มีน้ำตาลสูงให้เด็ก และไม่ควรซื้อขนมเก็บไว้ในบ้านเป็นจำนวนมาก 6.อ่านฉลากอาหารให้ดีก่อนซื้อ และ 7.ควรปลูกฝังให้เด็กรับประทานผลไม้แทนขนมหวาน
          ข้อควรปฏิบัติหลังจากกินขนมคือ 1.ดื่มน้ำเปล่า บ้วนปาก หรือแปรงฟันหลังจากกินขนม เพื่อกำจัดของหวาน ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก อันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุ 2.ไม่กินขนมก่อนนอนโดยไม่แปรงฟัน 3.ไม่ควรกินขนมหวาน ทอฟฟี่ หรือช็อกโกแล็ตให้เด็กเห็น และ 4.ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

pageview  1205747    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved