หากกล่าวถึงสถานการณ์การบริจาคอวัยวะในประเทศไทยต้องถือว่ายังไม่ความตื่นตัวมากนัก จะเห็นได้จากสถิติของสภากาชาดไทยในปี 2555 ซึ่งพบว่ามีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะประมาณ 3,516 คน ในขณะที่มีผู้บริจาคอวัยวะเพียง 136 รายเท่านั้น สามารถนำอวัยวะ ไปปลูกถ่ายช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 334 คน คิดเป็นสัดส่วนผู้บริจาค 2 คนต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น ในขณะที่ประเทศที่มีอัตราการบริจาคอวัยวะสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35-40 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
          หลายคนตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์การบริจาคอวัยวะในประเทศไทย ทั้งๆที่มีผู้
          ประสงค์ขอบริจาคอวัยวะหลายแสน คน แต่มีการบริจาคจริงเพียง 136 รายเท่านั้น
          กระทรวงสาธารณสุขเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่ออกมา สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ บริจาคอวัยวะให้กับประชาชน ภาย ใต้โครงการรณรงค์การรับรู้การบริจาคอวัยวะ โดยเน้นให้ประชาชนรู้ว่าสภาวะสมองตายเท่ากับเสียชีวิต รวมทั้งปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เชื่อว่าการบริจาคอวัยวะไม่ได้ทำให้ผู้ตาย มีอวัยวะไม่ครบเมื่อเกิดใหม่ โดยมีเหล่าศิลปินดาราชื่อดังมาร่วมบริจาคอวัยวะคับคั่ง อาทิ แพนเค้กเขมนิจ จามิกรณ์ และเติ้ล-ธนพล นิ่มทัยสุข เป็นต้น
          นายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และชมรมผู้ประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย จัดโครงการรณรงค์เรื่องการบริ- จาคอวัยวะขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ เนื่อง จากอัตราการบริจาคอวัยวะในประเทศไทยมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ในขณะที่มีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะจำนวนมาก อันเนื่องมาจากความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งความเชื่อที่ผิดๆ
          การบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรคอวัยวะวาย เช่น ตับ หัวใจ หรือปอดวาย หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะผู้ป่วยจะเสียชีวิตแน่นอน ส่วนผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายถึงแม้จะมีการรักษาด้วยการฟอกเลือดแต่การรักษาดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกถ่ายไตแล้วการปลูกถ่ายไตจะทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าสุขภาพดีกว่า มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าและภาระค่าใช้จ่ายของประเทศน้อยกว่า
          โครงการจัดขึ้นระหว่างวันนี้-11 ต.ค. นี้ ณ ลานหน้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ และลานวิคตอรี่ พอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การจัดแสดงประติมากรรมลอยตัวกึ่งถาวรรูปไตและรูปหัวใจที่ทำด้วยขี้ผึ้ง ซึ่งจะหลอมละลายไปเรื่อยๆเพื่อเตือนใจว่าอย่าปล่อยให้อวัยวะสูญสลายไปโดยไร้ประโยชน์ ภายในงานยังมีบอร์ดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ และศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยยังมาให้บริการรับบริจาคอวัยวะนอกสถานที่ด้วย