..ทีมข่าวเฉพาะกิจ..

          การแก้ปัญหาในช่องปากของผู้สูงอายุ สนองกระแสพระราชดำรัสความว่า "เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบายร่างกายก็ไม่แข็งแรง"

          นายแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวถึงภารกิจของกรมอนามัยที่ได้ดูแลส่งเสริมเรื่องสุขภาพพบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาค่อนข้างสูง และเมื่อปี 2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีการตรัสเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพช่องปากไว้ว่า เวลาชาวบ้านไม่มีฟันกินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบายร่างกายก็ไม่แข็งแรง อันนี้ก็เป็นพระราชดำรัสที่เรานำมาคิดว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยิ้มก็ไม่มีฟัน มักค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการกินอาหาร เพราะฉะนั้นจึงได้มีการสำรวจโรงพยาบาลทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงสาธารณสุข จัดบริการใส่ฟันในปี 2547  หนึ่งปีได้แค่เพียง 4,000 ซี่ ในขณะที่ความต้องการใช้เยอะมาก เมื่อตอนที่เราเริ่มโครงการฯ ได้สำรวจพบว่า มีผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเหลืออยู่เลยประมาณ 300,000 ราย ฟันหลอหมดทั้งปากเลย

          "ผู้สูงอายุพอถึงอายุสัก 60 ขึ้นไป ฟันเริ่มถูกถอนไปหรือโยกไป เพราะฉะนั้นเราพบว่า ประมาณ5% ของผู้สูงอายุ ประมาณ 300,000 ราย ที่ต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปาก  คือสมัยก่อนเราเรียกว่าฟันปลอม ซึ่งตอนนี้เรารียกว่า "ฟันเทียม" ซึ่งถ้าไม่ใส่เลยมันจะมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ถ้าเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด จะทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อเพราะอาหารมีชิ้นใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาของกระทรวงสาธารณสุขที่ร่วมกับภาคีต่างๆ ร่วมดำเนินการจัดโครงการฟันเทียมพระราชทานขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟัน การไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร และย่อยอาหารและก็เรื่องของสุขภาพโดยรวมด้วย" นายแพทย์สุธา กล่าว

          นายแพทย์สุธา กล่าวอีกว่า การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ได้ช่วยเหลือคนไข้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟันประมาณ 230,000 รายซึ่งก็เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะศักยภาพของทันตกรุ๊ป หรือทันตแพทย์ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนร่วม ในปีหนึ่งจัดบริการได้ประมาณ 32,000 ราย โครงการฟันเทียมพระราชทานได้เป็น 1 ในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลที่ท่านเจริญมายุครบ 7 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเมื่อเราดำเนินการมาถึงระยะหนึ่งแล้ว เราจึงได้มีภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมบริการค่อนข้างเยอะ และให้ความร่วมมือในการจัดบริการเป็นอย่างดี

          อาทิ เรื่องชมรมผู้สูงอายุมาร่วมสร้างสุขภาพช่องปาก หน่วยงานของจังหวัดโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นเราจึงจัดเป็นมหกรรมการประชุมวิชาการขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเป็นการถ่ายทอดเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อโครงการฟันเทียมพระราชทาน และก็ทำให้ผู้สูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมทั้งปากเกิดขึ้นและการสร้างสุขภาพก็หมายถึงว่า เราคิดว่าเมื่อผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งไม่มีฟันเทียมใส่ และผู้สูงอายุซึ่งยังมีฟันอยู่ก็ให้รักษาฟันนั้นไว้ และก็มาประชุมวิชาการถ่ายทอดรูปแบบการดำเนินการต่างๆ ว่า เราจะทำยังไงจะเก็บรักษาฟันเอาไว้ให้จนกระทั่งถึงบั้นปลายชีวิตจะได้ไม่ต้องใส่ฟันเทียม ทำให้เกิดเป็นมหกรรมการประชุมวิชาการในโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 5 ธันวาคม2554 เมื่อวันที่ 11-12 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา ณโรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี