ตำรวจภาค 5 จ่อเฉือด รพ.เอกชนเพิ่มสั่งซูโดฯ นอกระบบนับแสนเม็ด ด้าน "ดีเอสไอ" เผยผลสอบทุจริตซูโดฯ พบคนในทำผิด ลงพื้นที่สอบสัปดาห์นี้ ขณะที่ "บิ๊กดีเอสไอ" พบความเคลื่อนไหวลักลอบนำเข้าซูโดฯ จากแดนโสมเข้าไทย 850 ล้านเม็ด ตั้งแต่ปี 53 รวม 9 ครั้ง สั่งตรวจสอบ ชงเป็นคดีพิเศษ 25 เม.ย.นี้
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวภายหลังการร่วมสอบปากคำผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั้ง 8 แห่ง ที่เข้าชี้แจงกรณีการหายไปของยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนว่า ประเด็นในการสอบปากคำผู้อำนวยการทั้ง 8 แห่ง เป็นการสอบถามเรื่องระบบการเบิกจ่ายยา รวมถึงการสั่งซื้อ ซึ่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลชี้แจงรายละเอียดไว้แตกต่างกัน เช่น แจ้งว่ามีการยักยอกนำยาในคลังออกไปจำหน่าย บางแห่งอ้างว่าบุคลากรโรงพยาบาลอ้างชื่อโรงพยาบาลในการสั่งซื้อยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะลงพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และปริมณฑลในสัปดาห์นี้ เพื่อสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เภสัชกร เจ้าหน้าที่คลังยา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป
          ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการจับกุมตัว น.ส.ศุภรดา หรือสุทธินี ทองเที่ยง หรืออ้อย อายุ 25 ปี ผู้แทนจำหน่าย หรือดีเทลยา หจก.โรงงานมิลาโน และนางมยุรี หลวงเครื่อง อายุ 40 ปี ดีเทลยา หจก.เอเชี่ยนฟาร์มา ซูติคัล ตามหมายจับศาล จ.เชียงใหม่ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์เป็นอากับหลาน ในข้อหาขายซึ่งวัตถุออก
          ฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม หลังถูกซัดทอดจากน.ส.พิชญ์สิณี ประเสริฐศรี หรือชื่อเดิม น.ส.ฐิฎาภรณ์ คำป๊ก หรือชมพู่ พนักงานคลังยาโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียล ผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ให้การซัดทอดว่าเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟรดีนจำนวน 375,000 เม็ดซึ่งพนักงานสอบสวนร่วมมือกับ ป.ป.ส.กำลังพยายามรวบรวมหลักฐานสำนวนการสอบสวนให้รัดกุมเพื่อขยายผลสาวไปให้ถึงผู้เกี่ยวข้อง คาดว่ายังมีอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 ราย ส่วนในแง่ของผู้ต้องหาดีเทลยา 2 คน ต้อขอรอดูหลักฐานต่างๆ ก่อน จึงยังไม่พิจารณาให้ประกันตัว โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานที่ผู้ต้องหานำมาหักล้าง ก็เป็นข้ออ้างที่เขามีสิทธิ์ แต่ในแง่ของกระบวนการก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน อัยการ ศาล ตามขั้นตอน
          ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลักลอบนำซูโดอีเฟดรีนไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดว่า ชุดสืบสวนดีเอสไอพบความเคลื่อนไหวในการลักลอบนำเข้าซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลี น้ำหนัก 40 ตัน หรือ 850 ล้านเม็ด ผ่านสายการบินต่างๆ เข้ามาในประเทศไทย โดยพบว่ามีการทยอยนำเข้าซูโดอีเฟดรีนบางส่วนเข้ามาในประเทศ ตั้งแต่ปี 2553 รวม 9 ครั้ง เป็นการสำแดงเท็จว่า เป็นสิ่งของชนิดอื่นที่ไม่ใช่ซูโดอีเฟดรีน ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนแกะรอยจากบริษัทชิปปิ้งที่นำของออกจากคลังสินค้าของสนามบิน ทั้งนี้ คดีลักลอบนำซูโดอีเฟดรีนมาจากประเทศเกาหลีนั้น ดีเอสไอจะแยกการสอบสวนออกจากคดีลักลอบนำยาแก้หวัดออกจากระบบของโรงพยาบาล โดยจะเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณาในวันที่ 25 เม.ย.นี้