HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
พิมพ์ไทย [ วันที่ 11/04/2555 ]
'ดีเอสไอ'ถก8หน่วยงานล่าทุจริตซูโดฯ 'พสิษฐ์'โอดปชช.ร้องเรียนเข้าถึงยายาก แฉกลุ่มนักค้ายาเสพติดต้นตอนำออกรพ.

 ทีมข่าวเฉพาะกิจ
          "พสิษฐ์" โอดชง รมว.สาธารณสุข พิจารณาขายยาพาราเซตามอลสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ตามร้านขายยาเหมือนเดิม หลังประชาชนร้องเรียนเข้าถึงยายากขึ้น ด้าน "ดีเอสไอ" หารือ 8 หน่วยงานถกความคืบหน้าทุจริตยาซูโดฯ เหตุเล็ดลอดออกจากโรงพยาบาลจจำนวนมาก "บิ๊กดีเอสไอ" แฉกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่คือต้นตอของการนำยาแก้หวัดสูตรซูโดฯ จากโรงพยาบาล ไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์
          นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนว่า ขณะนี้หาซื้อยาพาราเซตามอลที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนยากขึ้น หลังจากตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากจึงได้ทำหนังสือไปถึง รมว.สาธารณสุข ขอให้มีการพิจารณาขายยาดังกล่าวได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะตามร้านขายยาทั่วไป แต่อาจให้มีการจดบันทึกไว้ และขณะนี้หนังสือดังกล่าวส่งถึง รมว.สาธารณสุขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา
          นายพสิษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตอบรับมาว่ารมว.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจที่จะยกระดับสารซูโดอีเฟดรีนให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ได้ จึงต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และมีมติออกมาว่าให้ยกระดับยาซูโดอีเฟดรีนเป็นวัตถุออกต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 ได้ รมว.สาธารณสุขจึงมีคำสั่งให้ประกาศลงในกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.55 และบังคับใช้ทันทีซึ่งจะมีผลควบคุมยาพาราเซตามอลที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนด้วย ทำให้ประชาชนหาซื้อยาดังกล่าวได้ยากขึ้น และเป็นที่มาของการร้องเรียนดังกล่าว
          ขณะที่ นพ.ประวิ อ่ำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เภสัชกรเก็บรวบรวมยาแก้หวัดสูตรซูโดเอฟีดรีนโดยให้จัดทำบัญชีคุมยา และห้ามจ่ายยาให้ผู้ป่วยในช่วงนี้ตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในขั้นตอนการจัดเก็บยานั้น จะมีคณะกรรมการควบคุมยา 3 คน นอกจากนี้ยังมีคำสั่งห้ามร้านขายยาเอกชนส่งคืนยาดังกล่าวให้กับทางบริษัทผู้ผลิตยาด้วย หากมีความจำเป็นต้องใช้ยา ก็ให้จ่ายยาที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกันแทนการจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนไปก่อน ส่วนคลินิกเอกชน และโรงพยาบาลเอกชน ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ยา ต้องทำหนังสือขออนุญาตครอบครองและต้องทำบัญชีคุมยาที่อยู่ในคลังยาให้ถูกต้องและตรงตามจำนวนยาที่มีอยู่ ส่วนโรงพยาบาลของรัฐ ก็ให้เก็บเข้าคลังยาและคุมบัญชีเช่นเดียวกัน ส่วนความคืบหน้าการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ของโรงยาบาลภูสิงห์ ขณะนี้ได้เริ่มมีการสอบไปบ้างแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานสอบสวนทางวินัย คาดว่าจะทราบผลโดยเร็วที่สุด
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.55 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.), กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหารือถึงความคืบหน้าในการสนธิกำลังสอบสวนคดีการลักลอบนำยาแก้หวัดซึ่งมีสารซูโดอีเฟรดีนเป็นส่วนประกอบ ออกจากโรงพยาบาลโดยมิชอบจำนวนมาก
          พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคงดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดียาแก้หวัดที่มีสารซูโดอีเฟดรีนรั่วไหลออกจากโรงพยาบาลจำนวนมากว่า สำหรับคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยเหตุเกิดในหลายพื้นที่และหลายกรณี อีกทั้งมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกัน ดังนั้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงต้องนำพยานหลักฐานมาพูดคุยกันในที่ประชุมเพราะการดำเนินคดีนี้ เป็นการทำงานแบบบูรณาการหลายหน่วยงาน จึงต้องมีการหารือร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเม็ดยาซูโดอีเฟดรีน ต้องรอผลการตรวจสอบจาก อย.เป็นหลักก่อน
          ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงคดีทุจริตเบิกยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล สำหรับกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีทั้งกลุ่มผู้บริหารของโรงพยาบาล หรือผู้อำนวยการ หัวหน้าห้องยาหัวหน้าคลังยา เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ กลุ่มคนกลางที่เป็นผู้รวบรวมยาแก้หวัด กลุ่มเซลล์ขายยาของบริษัทยาต่างๆ และกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังที่สั่งการให้เกิดขบวนการทุจริตเบิกยาแก้หวัด ทั้งนี้ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้สั่งการไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่เป็นต้นตอของการนำยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนจากโรงพยาบาลไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์


pageview  1205094    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved