HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
พิมพ์ไทย [ วันที่ 29/11/2556 ]
แพทย์ชี้เบาหวานป้องกัน-รักษาได้ด้วยสมุนไพร
ดร.นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า โรคเบาหวานเป็นโรคที่ได้รับการวิเคราะห์ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน จากเครื่องมือการตรวจน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีการบันทึกตำรับยาที่นำมาเป็นยาในการรักษาโรคไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 ว่าการแพทย์แผนปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทกับการรักษาโรคเบาหวานในประเทศไทยแล้ว ส่วนทางศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทยลักษณะของโรคนี้มีมาช้านาน แต่ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นโรคเบาหวานเพราะไม่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่จะนำมาเจาะเลือด แต่มีการนำสมุนไพรมาใช้ปรุงยาเพื่อรักษาเบาหวานอย่างช้านานเช่นกัน
          ดร.นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า "มะระขี้นก"  เป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณประโยชน์แก่ร่างกายสูง ทั้งด้านคุณค่าทางอาหาร คือ พลังงาน คาร์โบไฮเดรต โปรตีนแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย วิตามิน A, B1,B2, C ไนอาซีน และไทอามีน และประโยชน์ทางยา คือ ลดน้ำตาลในเลือด (แก้โรคเบาหวาน) จากการศึกษาวิจัยพบว่าในมะระขี้นกจะมีสาร Cha rantinช่วยลดน้ำตาลในเลือดสามารถบำบัดรักษาโรคเบาหวานได้ ในการรับประทานมะระขี้นกให้หั่นเนื้อมะระตากแห้งชงน้ำดื่ม ถ้าต้องการกลบรสขมให้เติมใบชาลงไปด้วย ขณะที่ชงดื่มต่างน้ำชา ส่วนน้ำต้มผลมะระ สามารถลดการเกิดต้อกระจก ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงในคนที่เป็นโรคเบาหวานได้ แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือพึงระลึกว่าเมล็ดของมะระขี้นกอาจมีพิษ หากจะนำผลมะระขี้นกมาทำยารับประทานต้องแกะเมล็ดออกเสมอ
          ส่วน"อบเชย" เป็นพืชสมุนไพรที่มีสาระสำคัญ คือ เมธิลไฮดรอกซี่ซาลโคนโพลิเมอร์(Methylhydroxy Chalcone Polymer หรือ MHCP)ซึ่งเป็นเป็นสารที่มีคุณสมบัติและความสามารถในการทำงานคล้ายกับฮอร์โมนอินซูลิน คือช่วยเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญกลูโคสให้ได้มากขึ้นจึงมีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และจะไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ถ้ามีการรับประทาน"อบเชย" อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ การใช้อบเชยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนั้นจะมีความปลอดภัยมากว่าการใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายแต่อย่างใดโดยภายใน 1 วันควรรับประทาน "อบเชย" อย่างน้อย 1 กรัม และให้รับประทานอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นผงอบเชยจีนให้รับประทาน เช้า เย็น อย่างละครึ่งช้อนชา อย่างน้อย 20 วัน ทั้งนี้ควรให้ผู้ป่วยทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้การกินข้าวกล้องและธัญพืชต่างๆ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่วมกับการทำสมาธิปรับสมดุลทางอารมณ์ จะช่วยเสริมการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

pageview  1205927    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved