HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
บ้านเมือง [ วันที่ 02/10/2558 ]
'สถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์'จัดอบรมผ่าตัดด้วยคอมพิวเตอร์นำวิถี
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จจากการพัฒนาเทคนิคการรักษาโรคในกลุ่มกระดูกสันหลังได้กลายมาเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้นในการรักษาผู้ป่วยที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากภาวะกดทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลัง ทั้งจากอาการหมอนรองกระดูกปลิ้น หินปูนเกาะ โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบจากการที่กระดูกหรือเส้นเอ็นหนาตัวขึ้นจนบีบรัดเส้นประสาท
          โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักต้องทรมานกับอาการเจ็บร้าวแล่นลงขาหรือแขน บางรายอาจร่วมด้วยอาการชา จนเมื่ออาการหนักขึ้นขาหรือแขนจะอ่อนแรง อาการต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นข้อบ่งชี้ว่าผู้ป่วยควรได้รับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดโดยในอดีตมีเพียงการรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องเปิดแผลยาวที่กลางหลัง เพื่อทำการเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกเป็นบริเวณกว้างเพื่อให้ทำการผ่าตัดได้สะดวก การเลาะกล้ามเนื้อนี้เองเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยได้รับความเจ็บปวดจากการผ่าตัดมากและทำให้ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้ช้า
          ขณะที่เทคโนโลยีการผ่าตัดในปัจจุบันความสำเร็จจากการพัฒนาเทคนิคการรักษาโรค ทำให้เกิดทางเลือกวิธีการรักษาที่เพิ่มขึ้นโดยในการผ่าตัดแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ เพียง 4-5 แผล เพื่อทำการสอดอุปกรณ์เข้าไปยึดตรึงกระดูกสันหลัง และทำการผ่าตัดแทรกผ่านเส้นใยของกล้ามเนื้อ โดยไม่ต้องเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกอีกต่อไป ผู้ป่วยจึงได้รับความบอบช้ำเพียงเล็กน้อย และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าวิธีการเดิม
          ด้วยจุดมุ่งหมายในการรักษาที่มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยได้รับความเจ็บปวดจากการผ่าตัดน้อยที่สุด สถาบันกระดูกสันหลังโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงได้นำเทคนิค "การผ่าตัดเชื่อมกระดูกผ่านผิวหนัง" หรือ Percutaneous Transforaminal Lumbar Interbody Fusion (PTLIF) มาใช้ในการรักษา
          โดยวิธีการนี้แพทย์จะยึดตรึงกระดูกสันหลังเข้าด้วยกันผ่านทางแผลผ่าตัดขนาดเล็กบนผิวหนัง (key-hole surgery) พร้อมกับนำเครื่องคอมพิวเตอร์นำวิถี (O-arm) เข้ามาช่วยในการผ่าตัด โดยเครื่องมือนี้จะมีหลักการทำงานคล้ายอุปกรณ์ GPS ที่ติดรถยนต์ ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นเป็นภาพ 3 มิติตลอดระยะเวลาทำการผ่าตัด ทำให้แพทย์มีความแม่นยำในการใส่เครื่องมือเพิ่มมากขึ้น
          สำหรับข้อบ่งชี้ของผู้ป่วยที่เหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธี PTLIF คือกลุ่มผู้ป่วยที่กระดูกสันหลังมีความเสื่อมในระดับรุนแรง หรือมีการเสียความมั่นคงของกระดูกสันหลังเกิดขึ้น
          ในขั้นตอนการรักษา แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กเพื่อใส่สกรูเข้าไปในกระดูก โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นำวิถีช่วยเพิ่มความแม่นยำ ทั้งยังทำให้แพทย์สามารถเข้าถึงตำแหน่งของกระดูกสันหลังโดยไม่ต้องตัดเลาะกล้ามเนื้อส่วนที่ดีออก จากนั้นแพทย์จะทำการยึดตรึงกระดูกผ่านทางช่องเปิดเล็กๆ ทางผิวหนัง และทำการคลายการกดทับของเส้นประสาทผ่านอุปกรณ์คล้ายท่อโดยการมองผ่านกล้องจุลทรรศน์  เมื่อเสร็จแล้วก็จะสอดอุปกรณ์ซึ่งมีส่วนกระดูกของผู้ป่วยเองอยู่ด้านในเข้าไปเพื่อให้กระดูกเชื่อมติดกันในภายหลัง โดยการผ่าตัดทั้งหมดใช้เวลาไม่นานราว 3-4 ชั่วโมง (หากไม่ปรากฏภาวะแทรกซ้อนกับผู้ป่วยระหว่างผ่าตัด) และผู้ป่วยจะสามารถเดินได้ภายหลังการพักฟื้นในระยะเวลาที่เร็วขึ้น
          อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเชื่อมกระดูกผ่านผิวหนังด้วยคอมพิวเตอร์นำวิถีจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย คือผู้เข้ารับการรักษาจะได้รับรังสีมากขึ้นหากเปรียบเทียบกับการผ่าตัดด้วยเทคนิคดั้งเดิม แต่ปริมาณรังสีดังกล่าวก็นับว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยมีปริมาณน้อยกว่ารังสีที่ได้รับจากการตรวจด้วยเครื่อง CT Scan เล็กน้อย
          ถึงแม้ว่าเทคนิค PTLIF นี้จะนำมาซึ่งผลดีหลายประการต่อผู้เข้ารับ การรักษา แต่ในกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ของการปฏิบัตินั้น ถือว่าเป็นเทคนิคระดับสูงซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ โดยแพทย์ที่จะสามารถทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ต้องได้รับการฝึกอบรมโดยเฉพาะ
          ขณะที่สถาบันกระดูกสันหลังโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งได้นำเทคนิค PTLIF มาใช้รักษาอาการกระดูกสันหลังมาแล้วเป็นระยะเวลายาวนาน และได้รับการยอมรับจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ ให้เป็นผู้ฝึกอบรมเทคนิค PTLIF ให้กับศัลยแพทย์ในระดับนานาชาติสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างศัลยแพทย์กระดูกสันหลังผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่
          จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การฝึกอบรมการผ่าตัดเชื่อมกระดูกสันหลังผ่านผิวหนังด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์นำวิถี" ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการจัดอบรมการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยเทคนิคดังกล่าว โดยมีคณะศัลยแพทย์กระดูกสันหลังจากหลายประเทศในทวีปเอเชียเข้าร่วม รวมทั้งสิ้น 18 คนจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ไต้หวัน อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศไทย

pageview  1205090    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved