พ.ญ.พรพรรณ บุญรัตพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุข สภาปฏิรูปแห่งชาติ (กมธ.สธ.สปช.) กล่าวถึงกรณีการร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เพื่อตั้งสภาประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าตนมองว่าประเทศไทยต้องมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่รวบรวมและบริหารจัดการเกี่ยวกับคุณภาพมาตรฐานและข้อมูลด้านการรักษาพยาบาลของประเทศ ทำให้การเข้าถึงบริการดีขึ้น และกำหนดสิทธิประโยชน์รักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นเหมือนกัน โดยมีคณะกรรมการนโยบายประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสภาประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการ แต่ยังไม่ใช่การรวมบริหารจัดการ 3 กองทุน ทั้งนี้ เมื่อมีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานที่จำเป็นเหมือนกันแล้ว ประชาชนไทยควรทำประกันสุขภาพของตนเองให้มากขึ้น เพื่อรับสิทธิการรักษาเพิ่มเติม เป็นการมีส่วนร่วมช่วยประเทศในการออกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มจากสิทธิในรูปแบบของประกันสุขภาพ โดยรัฐบาลอาจเป็นเจ้าของหน่วยงานที่รับประกันสุขภาพเอง อาจเป็นสำนักงานประกันสังคม (สปส.) หรือหน่วยงานอื่น แต่จำเป็นต้องมีการคิดเรื่องสภาประกันสุขภาพแห่งชาติให้ชัดเจน
"ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ปัจจุบันมีราว 49 ล้านคน มีคนจนจริง ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีและผู้ที่เข้าข่ายเงื่อนไขที่จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าประกันสุขภาพเพิ่มราว 20 ล้านคน ส่วนที่เหลือเกือบ 30 ล้านคนมีความสามารถที่จะจ่ายเงินทำประกันสุขภาพเองเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้ ใครมีมากก็จ่ายมาก มีน้อยจ่ายน้อย ไม่ควรมีการใช้เงินภาษีแบบ 100% เพราะประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีภาษีปานกลาง เราต้องยอมรับความจริง ขณะที่ผู้ใช้สิทธิข้าราชการก็อาจจะต้องมีส่วนร่วมประกันสุขภาพด้วย โดยอาจจะหักเบี้ยประกันจากเงินเดือนหรือให้หน่วยงานต้นสังกัดรับผิดชอบ ซึ่งรูปแบบก็ต้องมาพิจารณากันต่อไป ข้าราชการจะได้รับสวัสดิการบริการที่ดีขึ้น เพราะบางส่วนข้าราชการก็ได้รับน้อยกว่าบัตรทอง" พ.ญ.พรพรรณ กล่าวและว่า หากมีระบบประกันสุขภาพแห่งชาติแบบนี้แล้ว โรงพยาบาลเอกชนก็ดึงเข้ามาร่วมมากขึ้น บริการการรักษาพยาบาลก็ดีขึ้น ความแออัดในโรงพยาบาลรัฐก็ลดลง ประชาชนก็ได้รับประโยชน์สูงสุด