ทันทีเมื่อหนังสือพิมพ์วางแผง...แฟนคลับหมอใบไม้ก็เริ่มโทร.มาหา ทั้งยังมีแฟนคลับใหม่ขอคุยด้วย รายที่หนักหน่อยคือ ผู้ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน จาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
          สะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มียารักษาไม่ว่าโรงพยาบาลไหน อย่างที่บอก ต้องฉีดยาเข็มละ 1 แสนบาท ปีละ 2 เข็ม คิดเอาเองว่าในปีหนึ่งต้องเสียเงินทองไปเท่าไร แล้วที่จนๆ จะมีปัญญาหรือ ปัจจุบันพบคนไทยมีปัญหากับโรคสะเก็ดเงินมากขึ้น แม้กระทั่งในผู้เยาว์วัยก็สามารถพบได้ ก่อนหน้าผมพบผู้ป่วยในโรคสะเก็ดเงิน อายุเพียง 13 ปี แต่ล่าสุดผู้ป่วยจากนครปฐมรายนี้อายุอานามเพียง 3 ขวบเท่านั้น
          สะเก็ดเงินเป็นโรคที่ไม่รู้สาเหตุ ไม่ว่าแพทย์แผนไหน ก็ไม่ยืนยันว่าโรคสะเก็ดเงินมีต้นสายปลายเหตุจากไหน
          หมอใบไม้ก็ไม่เก่งขนาดว่า จะฟันธงยืนยันได้ว่าสะเก็ดเงินมีเหตุจากอะไร แต่เท่าที่สังเกตและพูดคุยกับกลุ่มนักธรรมชาติบำบัดด้วยกัน พบว่าผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมีพฤติกรรมไม่ต่างกันคือ...เป็นกลุ่มที่ไม่ชอบดื่มน้ำ เมื่อซักไซ้ไล่เลียง ทุกรายเป็นพวกดื่มน้ำน้อยจนถึงไม่สนใจกับการดื่มน้ำเลย บางรายตลอดทั้งวัน ดื่มน้ำแค่เพียง 2 แก้วเท่านั้น คิดดูสิว่าตลอดทั้งวันที่ลืมตาขึ้นจากเตียงนอนเกินกว่า 15 ชม. ดื่มน้ำเท่านี้เอง
          คนดื่มน้ำน้อยสามารถก่อโรคอะไรได้ทั้งนั้น เพราะอวัยวะทุกชนิดในร่างกายต้องมีน้ำเป็นองค์ประกอบ และอวัยวะส่วนใดละ อ่อนไหวง่ายที่สุดก็เกิดผลกระทบต่อความอ่อนไหวนั้น กรณีที่เราขาดน้ำและผิวหนังขาดความชุ่มชื้นรุนแรง โรคสะเก็ดเงินก็จะมาเยือน
          โชคร้ายครับ...ถ้าใครโดนโรคสะเก็ดเงินคุกคาม เมื่อเป็นแล้วไม่สามารถหยุดมันได้
          ดังต้องคำพิพากษาในผลกรรมที่ตนเองก่อ เมื่อยามเด็ก ยามสาว แล้วไม่ใส่ใจตนเอง อย่างกรณีของเด็กอายุเพียง 3 ขวบ ไม่ใช่ความผิดของเด็ก พ่อแม่ก็ไม่ผิด เป็นอะไรที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเด็กตัวเท่านี้จะเป็นโรคเรื้อรังอย่างสะเก็ดเงินได้อย่างเฉียบพลัน เด็กตัวน้อยเท่านี้จะบังคับให้ทำอะไรอย่างที่ผู้ใหญ่ต้องการคงเป็นเรื่องยาก จึงเป็นบทเรียนให้พ่อแม่ต้องตระหนักว่าไม่ควรละเลย!!
          และไม่ว่าใครต้องอย่ามองข้าม การดื่มน้ำไม่ใช่เรื่องสำคัญ...เพราะพบว่าผู้ป่วยทุกรายที่มาพบในกรณีเป็นโรคผิวหนัง ทุกรายมีปัญหาเรื่องการดื่มน้ำ ทุกรายไม่มีใครคิดว่าต้องมีระบบระเบียบการดื่มน้ำอย่างไร
          ใครๆ...ต่างคิดว่า การดื่มน้ำจะกระทำต่อเมื่อรู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำ และจะดื่มต่อเมื่อรับประทานอาหารแล้วเท่านั้น ระหว่างมื้ออาหาร ในช่วงท้องว่าง ไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้เลย หากรู้สึกกระหายน้ำก็จะไปหาน้ำอัดลม...ชากาแฟ...และน้ำทุกอย่างที่ไม่ใช่น้ำจริงๆ...ซึ่งผมให้คำจำกัดความน้ำประเภทนี้ว่า "เป็นน้ำที่มีการปนเปื้อน"
          ไม่ใช่น้ำบริสุทธิ์ !! เป็นน้ำที่มีการเจือปนสิ่งเป็นพิษเข้าสู่ร่างกาย เป็นพฤติกรรมตั้งใจทำร้ายตนเอง โดยไม่ทราบว่ากำลังเสริมโรคให้ตัวเอง โดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับอนาคต
          ตรงนี้คือคำตอบ...ที่บอกยืนยันได้ว่า ท่านป่วยเป็นโรคผิวหนังด้วยสาเหตุใด?
          แม้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังไม่ยืนยัน แต่โดยสถิติคิดกันแบบง่ายๆ ก็พอเป็นข้อมูลได้...ลองคิดดูสิว่า แต่ละวันท่านได้ดื่มน้ำบริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหน...ที่แย่...แต่ไม่รู้ว่ามันแย่...วันนั้นเราต่างได้รับน้ำตาลไปเท่าไร ไขมันที่เป็นตัวก่อมะเร็งจากคอฟฟี่เมทอีกล่ะ ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต ต้องกินอร่อย กินแต่ของชอบ แต่สุขภาพกายได้รับแต่ของแสลงแต่งเติมพิษ
          แต่ละวัน ร่างกายสามารถรับน้ำตาลได้เพียง 6 ช้อนชา แค่น้ำอัดลม หรือชาเขียวขวดเดียว ปริมาณน้ำตาลก็ทะลักออกจากหลอดเลือดแล้ว หากใครติดน้ำอัดลมคิดว่าวันละขวด เพียงพอกับความรู้สึกอยากที่มีตลอดเวลาไหม ใครนิยมชา กาแฟ กาแฟเย็นแก้วสูง 1 คืบ แสนอร่อย ทั้งหวานมันครบรส คือมัจจุราชตัวจริงที่คอยจ้องเอาชีวิตอย่างไม่กะพริบตา!!
          ความหวานมันที่ได้ลิ้มรส ก่อเกิดอารมณ์สุข แท้จริงคือเครื่องประหารที่แฝงมาในรูปเครื่องดื่มสุดโปรด น้ำตาลกับไขมันจะเริ่มสะสมในกระแสเลือดไปเรื่อยๆ ไอ้ที่สามารถกำจัดทิ้งก็ทิ้งไป ไอ้ที่ตกค้างก็ไปเกาะผนังหลอดเลือด แล้วใครๆ ก็คิดแต่ว่าเรื่องของไขมันกับน้ำตาล จะเป็นแต่เบาหวานกับความดันฯ
          ในความเป็นจริงอีกด้าน ผิวหนังที่ละเอียดอ่อนก็สามารถรับโรคได้เช่นกัน สาเหตุของโรคผิวหนังนั้น มีผลกระทบจากการดื่มน้ำปนเปื้อน ความหวานมันแสนอร่อยนี่แหละ คือต้นเหตุหนึ่งซึ่งหมอยังไม่ทราบ เพราะเมื่อใดที่ท่านไปพบแพทย์ผิวหนัง แพทย์จะพยายามหาสาเหตุ โดยมองไปที่ตัวก่อโรค คือเชื้อต่างๆ ว่ามันเป็นอะไร เป็นไอ้ตัวไหน หากเจอถือว่าผู้ป่วยรายนี้โชคดี
          เพราะมียากิน ยาทาให้ตามการวินิจฉัยแล้วพบ หากไม่เจอเชื้อล่ะ ตรงนี้หมองง หรือบางทีเจอแต่รักษายังไงก็ไม่หาย หมอยิ่งงงเข้าไปใหญ่!!
          ผู้ป่วยประเภทนี้มากขึ้นทุกวัน หมอไม่สนใจพฤติกรรมของผู้ป่วย หมอจึงไม่ทราบว่าผู้ป่วยกินอยู่อย่างไร และไม่เข้าใจ เพราะถูกสอนมาว่าไม่ต้องเข้าใจ ให้รู้เพียงว่าเป็นกลาก เกลื้อน ผื่นคันมา ตรวจหาเชื้อ เจอเชื้อให้เอายาไปฆ่า เดินหน้าสังหารอย่างเดียว ไม่ต้องเหลียวหลังไปมองอะไร?
          ทุกวันนี้โรคผิวหนังดื้อยาแล้วครับ พฤติกรรมการกินอย่างที่บอกไป เมื่อไขมันกับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แรงดันเลือดจะมีปัญหา เลือดไม่สามารถถูกส่งไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้ยังไงละครับท่าน
          เลือดขาดออกซิเจน เลือดมีความหนืด แม้คนในวัยหนุ่ม-สาวยังไม่พบว่า มีความผิดปกติของค่าน้ำตาลกับไขมันส่วนเกิน แต่เลือดก็มีการปนเปื้อนแล้ว ท่านยังปลอดภัยกับโรคเบาหวาน และความดันอยู่...แต่ไม่ปลอดภัยกับโรคผิวหนัง เพราะปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยในวัยทำงาน เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว วัยแค่ 30 กว่าๆ มีปัญหา เป็นโรคผิวหนังกันมาก ไม่ใช่ 30 ยังแจ๋วแล้ว ไม่แจ๋วไม่เจ๋งแล้วครับ
          จากการวินิจฉัยแบบแพทย์แผนโบราณ ด้วยการแมะ...พบผู้ป่วยโรคผิวหนัง มีปัญหาที่ระบบหายใจ คือปอดไม่แข็งแรงสมวัย
          ปอดทำหน้าที่ฟอกเลือด และส่งเลือดไปเลี้ยงทั้งร่างกาย ปอดจึงเป็นศูนย์กลางของเส้นเลือดทุกเส้น เปรียบเสมือนสถานีรถไฟหัวลำโพง ใครจะไปเหนือไปใต้ ก็ต้องไปซื้อตั๋วที่นั่น...ปอดต้องทำงานหนัก ในการฟอกเลือดให้สะอาดที่สุด แล้วจึงส่งไปเลี้ยงระบบเซลล์ทั่วร่างกาย
          ปอดไม่เคยได้รับความเห็นใจเลย ทุกวันท่านเติมสารพิษใส่กระแสเลือด ปอดก็ต้องรับใช้ท่าน เพื่อช่วยรักษาชีวิตท่านไว้ แต่ท่านไม่สำนึก สำเหนียกในเรื่องนี้แต่น้อยเลย ยังคงใส่ใจต่อสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจสุขภาพกาย...อย่างนี้ ในระบบแพทย์แผนจีนรู้ดี แพทย์จีนจะรู้เลยว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนัง นอกจากใช้ยาทาภายนอกแล้ว ต้องรักษาภายในด้วย คือการรักษาปอด ทำให้ปอดแข็งแรงขึ้น
          ทั้งฟากจีน ฟากไทยมียารักษาปอดทั้งนั้น แต่ท่านอยากกินยากันกระนั้นหรือ ยาคงไม่ใช่ของอร่อยชวนรับประทานหรอก...ดีที่สุดคือการป้องกัน ทำไมจึงไม่ชอบดื่มน้ำกัน...ถามตัวเองดูสิ ผัก-ผลไม้กินเข้าไป โดยเฉพาะผลไม้สีขาว ช่วยบำรุงปอด เห็ดหูหนูขาวนี่ดีมาก
          ดื่มน้ำให้มาก ผัก-ผลไม้ มีกากใย เสริมธัญพืช สามประสานจะช่วยให้หลอดเลือดไม่อุดตัน ปอดก็สบาย...สำคัญที่สุด ต้องหมั่นออกกำลังกาย แค่วิ่งนิดหน่อย ฟังให้ดีนะว่า วิ่งนิดหน่อยเท่านั้น หรือเดิน แล้วแกว่งแขน เพื่อเป็นการผายปอด
          เท่านี้ก็แข็งแรงแล้ว ทำไมไม่ทำ อย่าอ้างนะว่างานยุ่ง เหม็นขี้ฟันพวกขี้โรค...โรคผิวหนังบางโรคเป็นแล้วรักษาไม่หาย ได้แค่บรรเทา ป้องกันไว้อย่าให้มันเกิดเรื่องดีกว่า หมอใบไม้...โทร.08-5151-8844