พอเข้าสู่ช่วงหน้าฝน โรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น "โรคไข้เลือดออก" ซึ่งมีเจ้ายุงลายวายร้ายเป็นพาหะนำโรค โดยมักจะเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำขัง ต่างๆ ในช่วงนี้ จึงทำให้เด็กๆ เสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออก ซึ่งนับเป็นอีกโรคร้ายแรงที่ใครได้เป็นแล้วอาจตายได้ โดยเฉพาะในช่วงฝนพรำอย่างนี้
          หลายต่อหลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงเรียกว่า "ไข้เลือดออก" ก็เพราะว่า เมื่อใครก็ตามที่ป่วยเป็นโรคนี้แล้วจะมีอาการการรั่วของพลาสมา หรือน้ำเหลืองออกจากเส้นเลือด ซึ่งทำให้ความเข้มข้นของเลือดเพิ่มขึ้น มีน้ำในช่องปอดและช่องท้อง ส่วนอาการเลือดออก ที่พบก็จะมีเลือดกำเดาออก เลือดออกใต้ชั้นเยื่อบุตา ตามเหงือก และผิวหนัง สำหรับอาการเลือดออกที่รุนแรงคือ เลือดออกในกระเพาะ ลำไส้ และอาเจียนเป็นเลือด
          "ส่วนสาเหตุของการเป็นโรคไข้เลือดออก" นั้น มาจากเชื้อไวรัส 2 ชนิดที่สำคัญ ก็คือ เชื้อ เดงกี่ (dengue) และ ชิกุนกุนย่า (chigunkunya) สำหรับในบ้านเราก็จะรู้จักมักคุ้นกันกับเจ้าเชื้อตัวแรกมากกว่า ฉะนั้น ทุกคนควรหันมาศึกษาวิธีป้องกัน และใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวอย่างจริงจังซะที เพื่อพร้อมรับมือโรคไข้เลือดออก ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรคตัวฉกาจ ไม่เฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกน้อยเท่านั้น ปัจจุบันกลับพบว่ามีผู้ป่วยไข้เลือดออกอายุมากกว่า 15 ปีเพิ่มมากขึ้น และในผู้ใหญ่ที่ป่วยแล้วเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นมากขึ้นเช่นกัน จะมองว่าเป็นโรคของเด็กๆ หรือผู้ที่อ่อนแออย่างแต่ก่อนไม่ได้เสียแล้ว