น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมหารือการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์และสาธารณสุข ว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศ หรือระบบไอทีของโรงพยาบาลทุกระดับ มาใช้ในการให้บริการผู้ป่วยผ่านทางระบบออนไลน์คอมพิวเตอร์เช่นเดียวกับระบบในต่างประเทศ โดยประชาชนสามารถใช้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง ซึ่งเป็นสถานพยาบาลต้นทางที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องพบแพทย์และรับยาเป็นประจำ ซึ่งมีประมาณ 60% ของผู้ป่วยที่ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในจังหวัด คือโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งการพัฒนาระบบนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทางและค่าอาหารที่ผู้ป่วยต้องควักกระเป๋าเองระหว่างไปโรงพยาบาลใหญ่ได้ถึงปีละประมาณ 80,000 ล้านบาท
          น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบไอทีดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมหารือการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์และสาธารณสุข ว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาระบบสารสนเทศ หรือระบบไอทีของโรงพยาบาลทุกระดับ มาใช้ในการให้บริการผู้ป่วยผ่านทางระบบออนไลน์คอมพิวเตอร์เช่นเดียวกับระบบในต่างประเทศ โดยประชาชนสามารถใช้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง ซึ่งเป็นสถานพยาบาลต้นทางที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องพบแพทย์และรับยาเป็นประจำ ซึ่งมีประมาณ 60% ของผู้ป่วยที่ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในจังหวัด คือโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งการพัฒนาระบบนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทางและค่าอาหารที่ผู้ป่วยต้องควักกระเป๋าเองระหว่างไปโรงพยาบาลใหญ่ได้ถึงปีละประมาณ 80,000 ล้านบาท
          น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบไอทีดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ประวัติการรักษา ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การจ่ายยาชนิดเดียวกัน ระหว่างโรงพยาบาลต้นทางกับโรงพยาบาลแม่ข่าย หรือโรงพยาบาลจังหวัด ผู้ป่วยจะได้รับบริการมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ลดเวลา ขั้นตอน และค่าใช้จ่าย ซึ่งจากการวิเคราะห์กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พบว่าส่วนใหญ่จะควบคุมอาการได้ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ทุกราย ยกเว้นในรายที่ผลการตรวจผิดปกติ หรือสงสัยมีอาการแทรกซ้อน จะส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่เพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
          "ขณะนี้สถานบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 95% มีระบบอินเตอร์เน็ตแล้ว แต่ยังขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน ทั้งนี้ในการเริ่มระบบบริการใหม่จะมีการทดลองใช้กับสถานบริการที่มีความพร้อมก่อน หากได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้มาใช้บริการเป็นอย่างดี ก็จะนำมาใช้กับสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศต่อไป" น.พ.สุรวิทย์ กล่าว