ปัจจุบัน ไขมันในเลือดสูง เป็นโรคที่พบบ่อยแต่หลายคนไม่ให้ความสำคัญ โรคนี้มักไม่แสดงอาการผิดปกติในชีวิตประจำวันแต่กลับเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของคนไทยซึ่งเกิดจาก "ตะกรันไขมันอุดตันหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน" ทั้งนี้ตะกรันไขมัน ในหลอดเลือดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงหลอดเลือดหัวใจตีบ อัมพฤกษ์-อัมพาต และไตวาย

          นพ.ธเนศ อมรพิทักษ์กูล หรือ หมอแบงค์ แพทย์แผนปัจจุบันและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เจ้าของ Herb Plus  คลินิก เผยว่า ทุกวันนี้มีคนป่วยเป็นโรคไขมันในเลือดสูงจำนวนมาก โดยไม่รู้ตัว เพราะโรคนี้จะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ นอกจาก แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย ซึ่งจะมีอาการแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่กว่าจะรู้ตัวก็มักจะเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน ซึ่ง นพ.ธเนศ ได้อธิบายว่าเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอเกิดเป็นภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ โดยสิ่งอุดตันในหลอดเลือดก็คือ "ตะกรันไขมัน" ส่งผล ให้หลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก ตามมา หากปล่อยทิ้งไว้ จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการ ขาดเลือด ซึ่งทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน

          "ไขมันในเลือดนั้นมีอยู่สองส่วนด้วยกัน ได้แก่ ไขมันที่ละลาย อยู่ในน้ำเลือดซึ่งเป็นไขมันที่สามารถตรวจวัดจากการเจาะเลือดตามปกติ และไขมันส่วนที่เกาะเป็นตะกรันไขมันอยู่ที่ผนังหลอดเลือดส่วนต่างๆ ซึ่งไม่สามารถดูได้จากผลเลือด และจากการตรวจคนไข้หลายรายพบว่า คนไข้มีภาวะหลอดเลือดตีบตัน ทั้งๆ ที่ปริมาณไขมัน ในน้ำเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากไขมันไปเกาะเป็นตะกรันไขมันอุดตันอยู่ตามหลอดเลือดเต็มไปหมด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนอยู่ดีๆ แน่นหน้าอกทันทีและเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งที่เป็นคนชอบออกกำลังกายและระดับไขมันดูปกติดีมาตลอด"

          และหากปล่อยไว้ตะกรันไขมันนี้จะก่อตัวหนาขึ้นเป็นชั้นๆ และแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนก้อนหิน และอุดตันหลอดเลือดหัวใจเพิ่มมากขึ้น แต่เราจะไม่รู้สึกอะไร จนกว่าหลอดเลือดจะตีบมากถึง 80-90% ซึ่งพอถึงจุดนั้น วันดีคืนดี จะแสดงอาการแน่นหน้าอกมากแบบกะทันหัน โดยมักไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน ซึ่งหากมีอาการอย่างนี้ 10 คน จะเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือจะเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ภายใน 1 เดือน แม้ว่าจะพบแพทย์ได้ทันเวลา ดังนั้นหากมีอาการแน่นหน้าอก จะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงถึง 60% เลยทีเดียว

          ในปัจจุบันมีการรักษาไขมันในเลือด สูงมากมายทั้งยาลดไขมัน ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่ง นพ.ธเนศให้ความเห็นว่าจากประสบการณ์ ตรวจรักษาคนไข้หลายพันคน กลับพบว่า คนที่กินยาแผนปัจจุบันเหล่านี้ก็ยังคงมีหลอดเลือดแข็งจากไขมันอุดตันเหมือนเดิม ตรงข้ามกับคนที่กินสมุนไพรรักษาอย่าง ต่อเนื่อง หลอดเลือดกลับเปลี่ยนมายืดหยุ่นตามปกติ ดังนั้นการเลือกใช้สมุนไพรที่มีคุณภาพมาป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตันจึงเป็นทางออกที่ดีกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว นอกจากการกินสมุนไพรที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมันชนิดไม่ดีสูง เช่น กะทิ นมเนย ของทอด ของมัน จึงจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้ดีที่สุด