นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยได้ดำเนินโครงการตลาดสด น่าซื้อที่ส่งเสริมให้ตลาดสดมีการปรับปรุงด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมที่ดี และมีการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารทั้งอาหารสดและอาหารพร้อมบริโภค ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดมีตลาดประเภทที่ 1 (ตลาดที่มีโครงสร้าง) ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ จำนวน 1,332 แห่ง แบ่งเป็นระดับดี 1,087 แห่ง และระดับดีมาก 245 แห่ง สำหรับการรักษาตลาดสด น่าซื้อให้ได้มาตรฐานตลอดนั้น กระทรวงสาธารณสุขยังคงมีการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อหาการปนเปื้อนสารอันตรายต้องห้าม ได้แก่ สารเร่งเนื้อแดง สารบอแรกซ์ สารฟอกขาว สารกันรา ฟอร์มาลิน ยาฆ่าแมลง ตรวจน้ำมันทอดซ้ำ และการปนเปื้อนแบคทีเรียในน้ำแข็ง ซึ่งข้อมูลการตรวจสอบในปี 2554 จำนวนกว่า 140,000 ตัวอย่างจากทุกจังหวัด พบว่า ร้อยละ 96 ปลอดภัย พบการปนเปื้อนเกินมาตรฐาน 6,250 ตัวอย่างหรือ ร้อยละ 4 โดยพบน้ำบริโภคตกเกณฑ์มากที่สุด ร้อยละ 35 รองลงมาคือน้ำแข็งในร้านอาหารแผงลอย ร้อยละ 20 ส่วนประเภทผัก ผลไม้ พบมีการปนเปื้อนยาฆ่าแมลงร้อยละ 5 ซึ่งผักที่พบยาฆ่าแมลงตกค้างมากที่สุด ได้แก่ คะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และต้นหอม
การป้องกันการปนเปื้อนสารอันตรายก่อนกินผักและผลไม้ จึงต้องล้างผักก่อนหั่น เพราะถ้าหั่นก่อนอาจมีสารพิษตกค้างอยู่ จะทำให้สารพิษซึมเข้าตัวผักได้ ซึ่งการล้างผักที่ถูกวิธีควรล้างด้วยเกลือ ด่างทับทิม น้ำส้มสายชู หรือน้ำซาวข้าว โดยล้างผักในน้ำไหลนาน 2 นาที ช่วยลดสารตกค้างได้ร้อยละ 50 หรือล้างโดยใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำอุ่น 1 กะละมัง หรือน้ำประมาณ 20 ลิตร แช่ทิ้งไว้นาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 90-95 หลังจากแช่ผักในสารละลายของโซเดียมไบคาร์บอเนตแล้ว ควรนำผักไปล้างน้ำออกหลายๆ ครั้ง เพื่อชะเอาสารพิษตกค้างที่ผิวออก ให้หมด อันจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง