แม้มะเร็งปากมดลูก จะเป็นโรคที่ป้องกันและรักษา ให้หายได้ แต่มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในสตรีไทย โดยพบประมาณ 80% ของมะเร็งระบบสืบพันธุ์สตรี อาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ มักพบในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งระยะลุกลามแล้ว คือ เลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็นเลือดสดๆ ที่ออกจากก้อนมะเร็งโดยตรง หรือมีลักษณะเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือออกหลังมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้อาจมีตกขาวปนเลือด หรือน้ำใสๆ ปนเลือด และมักจะมีกลิ่นเหม็น ผิดปกติจากการติดเชื้อ หากมาพบแพทย์ในระยะที่รุนแรงกว่านั้นอาจเป็นอาการที่โรคลุกลาม ไปอวัยวะอื่น เช่น ปัสสาวะปนเลือด อุจจาระปนเลือด ไตวายจากการกดทับท่อไต เป็นต้น
          การค้นหาโรคในระยะเริ่มแรกในมะเร็ง ปากมดลูกนั้น สามารถตรวจหาได้ตั้งแต่ระยะเซลล์ผิดปกติ เพื่อทำการรักษาเพื่อป้องกันมะเร็ง หรือ สามารตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้น ตั้งแต่ยังไม่มีอาการด้วยการตรวจภายใน และ แปปสเมียร์อย่างสม่ำเสมอ ในปัจจุบันนอกจากการตรวจเซลล์ด้วยแปปสเมียร์แล้ว ยังสามารถตรวจหา เชื้อ HPV ซึ่งพบว่าเป็นสาเหตุหลักของมะเร็ง ปากมดลูกได้ด้วย และหากตรวจพบเซลล์ ปากมดลูกผิดปกติ หรือพบว่าติดเชื้อ HPV ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็ง ก็สามารถส่องกล้องขยายและตัดชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัย และทำการจี้ เย็บหรือตัดปากมดลูก เพื่อตัดตอนไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็งระยะลุกลามได้ แต่หากพบว่าเป็น มะเร็งระยะลุกลามแล้ว การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค หากเป็นเพียงระยะที่ 1 สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกได้ แต่หากเป็นมากกว่าระยะที่ 1 ต้องได้รับรังสีรักษาร่วมกับยาเคมีบำบัด
          มะเร็งปากมดลูกนั้นนับเป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุด คือการตรวจภายในและตรวจเซลล์ปากมดลูกดังที่กล่าว ในข้างต้น ในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ก่อโรคได้ อีกด้วย
          สนับสนุนข้อมูลโดยพญ.เบญจวรรณ ลิมป์วนัสพงศ์
          แพทย์ประจาศูนย์สตรี โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
          โทร. 1745 www.bangpakokhospital.com