สังคมครอบครัวของไทยทุกวันนี้ การที่พ่อ แม่ ลูกจะมีโอกาสได้ ทำกิจกรรมร่วมกันให้มากที่สุดเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก เพื่อปิดช่องว่าง พ่อ แม่ ลูกห่างเหินกันมากทุกวัน จนทำให้ปัญหาของลูก ไม่ได้รับการแก้ไขหรือเสนอแนะ สุดท้ายลูกๆ ก็มีวิธีไปแก้ไขกันเองในหมู่เพื่อนๆที่ขาดประสบการณ์และความรู้ทำให้กลายเป็นปัญหาที่บานปลายมากขึ้นไปอีก
          เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา สสส. ได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ขึ้นมางานหนึ่ง รวมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวเข้าด้วยกัน โดยแขกรับเชิญ คือพ่อ แม่ ลูก ชื่องานคือ  One Day Camp : สานสุขครอบครัวหัวใจรักษ์โลก  จัดที่ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในงานมีการบรรยายด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การคัดแยกขยะ จากวิทยากร ธนาคาร ขยะออมทรัพย์กิจกรรมเวิร์กช็อป ECO D.I.. นำโดย ผศ.ชัยณรงค์ อริยะประเสริฐ, อ.พัฒนา เจริญสุข, อ.ณฤต เลิศอุตสาหกูล และนักศึกษาคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
          คุณฉัตรศนัน มาสว่างไพโรจน์วิทยากร จากธนาคารขยะออมทรัพย์  ได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกครอบครัวได้เริ่มต้นคัดแยกขยะในครัวเรือน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมว่า "ทรัพยากรบนโลกนั้นมีอย่างเหลือเฟือ แต่มนุษย์ใช้มากเกินที่มี ก็เลยไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นหากเราสามารถนำวัสดุเหลือใช้หรือที่เราเรียกว่าขยะกลับมาแปรรูป เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทน หรือนำกลับมารีไซเคิลได้ ขยะก็จะกลายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเพิ่มคุณภาพชีวิตของเราได้ด้วย" คุณฉัตรศนัน กล่าว
          หนึ่งในครอบครัวหัวใจรักษ์โลกที่มี "คุณพ่อเกรียงศักดิ์- คุณแม่จิตติมา" และลูกชาย "เด็กชายวรกร บุญเกื้อ" ที่มักจะหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะเห็นความสำคัญว่า "หากพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองใช้เวลาว่างในวันหยุดอยู่ กับบุตรหลานให้มากขึ้นแล้ว จะช่วยลดช่องว่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี"
          "ปัจจุบันเด็กห่างผู้ใหญ่ออกไปเรื่อยๆ บางครั้งก็อยู่กับเพื่อน อยู่กับเทคโนโลยีจนลืมครอบครัว ถ้ามีกิจกรรมที่ทำร่วมกันเป็นระยะ ก็อาจจะช่วยดึงให้เขาหันกลับมามองเห็นความสำคัญของคนในครอบครัวมากขึ้นได้ คนเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครองทุกคน ก็หวังว่าลูกจะเป็นคนดี จึงจะต้องคอยเติมเต็มความรักความอบอุ่นให้กับเขา เฝ้ามองเขาทำในสิ่งที่เขารักอย่างมีความสุข และพยายามหาสิ่งที่ดีให้กับเขา" คุณแม่จิตติมา กล่าว
          เช่นเดียวกับการเข้าร่วมกิจกรรม One Day Camp : สานสุขครอบครัวหัวใจรักษ์โลกครั้งนี้ เพราะอยากให้ลูกได้ทำกิจกรรมเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเห็นว่า เป็นกิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งครอบครัว เพื่อปลูกฝังเรื่องการรักษ์โลกที่ทางครอบครัวมีความสนใจอยู่แล้ว และยังบอกอีกว่าการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทัศนคติ แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกับครอบครัวอื่นๆ ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมในเชิงลึกมากขึ้นอีกด้วย
          คุณพ่อเกรียงศักดิ์ ก็ได้ให้ความเห็นว่า "การสอนให้เด็กๆ ได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกอย่างต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กจึงจะติดตัวไปตลอด ทั้งนี้ก็ทำให้ เด็กได้ทราบว่า วิธีการรักษ์โลกนั้นทำได้หลายอย่าง ซึ่งก็จะเป็นพื้นฐานที่ดีให้เขาได้ตระหนักเมื่อโตขึ้นในอนาคต"
          "การได้อยู่ร่วมกันของพ่อ แม่ ลูก จึงมีความจำเป็น อย่างมาก"