HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์แนวหน้า [ วันที่ 26/06/2556 ]
สสส. ทศวรรษใหม่ ขับเคลื่อนสุขภาพคนไทย 4 มิติ

   นับเป็นเวลา 12 ปีแล้ว ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นตัวจักรที่ทรงอิทธิพลในการขับเคลื่อน ขบวนการส่งเสริมสุขภาพคนไทย สำหรับในทศวรรษต่อไป สสส.จะเดินหน้าต่อไปอย่างไรให้สัมฤทธิผลยิ่งกว่าที่ผ่านมา คงสามารถประเมินได้จาก ปาฐกถาพิเศษ ที่จัดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้
          ปาฐกถาพิเศษ ดังกล่าว ได้มีการพูดกันถึงเรื่อง "สุขภาพในทศวรรษต่อไป" ภายในเวที "สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่" จัดโดย สสส. และภาคเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพกว่า 300 องค์กร โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้เสนอแนะมุมมองด้านสุขภาพคนไทย ในอนาคตว่า ควรต้องมีสุขภาพที่ดีครบใน 4 ด้านคือ กาย จิต สังคมและจริยธรรม ขยายความได้ว่า ปัญหาเรื่องสุขภาพกายและจิตนั้นเป็นที่รับรู้วงกว้างอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของ สุขภาพ สังคม และ จริยธรรม ปัญญา คงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมโรคสุขภาพ 3 ด้านดังกล่าว เพราะปัจจุบันยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ และยังเสนอแนะว่า สสส.ควรทำหน้าที่ในการตรวจสอบปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วกระทบต่อสุขภาพทั้ง 4 ด้านดังกล่าว เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง เทคโนโลยี และสื่อมวลชน
          สำหรับการทำงานของ สสส. ในอีก 10 ปีข้างหน้า ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม ย้ำว่า การมองเพียงแค่ระบบสุขภาพแล้ววิ่งไปข้างหน้านั้นยังคงไม่เพียงพอ และเสนอแนะว่า ควรต้องมองปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะมีระบบอื่นๆ ที่มากระทบกับสุขภาพอีกมากมาย รวมถึงต้องมองยุทธศาสตร์ นโยบายของประเทศอื่นที่อยู่ในระนาบเดียวกับไทยด้วย
          ส่วนระบบบริการสุขภาพนั้น เนื่องจากประเทศไทยยังมีความเหลื่อมล้ำสูง และงบประมาณไม่มากนัก การดำเนินการนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ต้องมีการจัดทำมาตรฐานกลาง ที่คนไทยทุกคนจะได้รับ แต่หากต้องการบริการที่เพิ่มขึ้นจากมาตรฐานกลางก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ดำเนินการเช่นนี้จะเป็นการช่วยเหลือคนยากจนอย่างแท้จริง
          ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า คนทำงานด้านสุขภาพ ควรยึดหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ 1.ทำงานอย่างผู้รู้จริง 2.ไม่ติดตำราแต่คำนึงถึงภูมิสังคม 3.ช่วยเขาเพื่อให้เขาช่วยเหลือตัวเอง 4.ทำจากเล็กไปใหญ่ แต่ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต้องทำให้ง่าย 5.ประหยัดเรียบง่ายและประโยชน์สูงสุด และ 6.จิตใจบริสุทธิ์ ซึ่งถ้ายึดทั้ง 6 ข้อ จะมีความสุขจากการได้ทำประโยชน์ต่อผู้อื่น
          ในส่วนของ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ได้กล่าวถึงผลงานของ สสส. ว่า ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีโครงการที่สนับสนุนกว่า 1 หมื่นโครงการ มีองค์กรที่ทำงาน ร่วมกับ สสส. มากกว่า 1 หมื่นองค์กร เรียกได้ว่า น่าจะเป็นเครือข่าย ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย อาทิ เครือข่าย เด็ก เยาวชน ผู้หญิง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และพื้นที่ท้องถิ่น เป็นต้น
          จากการประเมินผลการดำเนินการช่วง 10 ปีแรกโดยองค์กรนานาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก ธนาคารโลก และ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายประเทศ ปรากฏว่า ในภาพรวมเรื่องของปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาทิ ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมามีสถิติการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ร้อยละ 1.5 ต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้มีสถิติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องถ้าเทียบเป็นค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนไทยซื้อ ลดลง ราว 5 หมื่นล้าน ส่วนบุหรี่ ใน 20 ปีที่ผ่านมา คนสูบบุหรี่ ลดลงไป 5.7 ล้านคน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านอุบัติเหตุ ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา คนที่เสียชีวิตบนท้องถนนจากอุบัติเหตุลดลง 3 หมื่นคน นอกจากนี้ คนไทยตื่นตัวกับการสร้างเสริมสุขภาพ การออกกำลังกาย การกินอย่างกว้างขวาง มากขึ้น
          ทพ.กฤษดา มองไปข้างหน้าถึง ทศวรรษที่ 2 ของสสส.พบว่า จะเกิดโครงการใหม่ที่รองรับช่องว่างของสังคมให้มากขึ้น อาทิ 1.จัดโครงสร้างงานแบบใหม่ มีคนทำงานให้เต็มขบวนการสร้างเสริมสุขภาพหรือขบวนการสสส. ครั้งใหญ่ ที่ภาคีทุกคนเป็น เจ้าของ จะทำได้ต้องมีการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วม ซึ่งขบวนนี้จะช่วยกันคิดช่วยกันทำนำขบวนสร้างเสริมสุขภาพให้เกิดผล และ 2.สสส.จะเติบโตต่อได้ ต้องจัดการเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ การเชื่อมโยงงานอย่างเป็นธรรมชาติและเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ประชุมปีละครั้ง ในพื้นที่ต้องต่อประเด็นกันได้ ไม่ใช่เป็นลักษณะการให้ทุนโครงการแบบเดิม ตรงนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะเชื่อมโยงกับข้อแรก
          "เราให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนและเสริมพลังภาคี ให้ภาคีได้ทำงานที่ทุกคนมีความหวังจะทำให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีและเดินต่อได้ ภาคีทุกคนจะเป็นคนผลักดันให้ขบวนสร้างเสริมสุขภาพในทศวรรษที่ 2 เดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและสร้างผลงานให้กับประเทศไทย" ทพ.กฤษดากล่าว เรียกได้ว่า อะไรยังขาด ยังพร่องอยู่ สสส.พร้อมจะเติมให้เต็ม ว่ากันอย่างนี้เถิด


pageview  1205870    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved