โรคออทิสติก (Autistic Disorder) หรือออทิสซึม (Autism) เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่งซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคม ทักษะภาษา และการสื่อความหมายได้เหมาะสมตามวัย มีลักษณะพฤติกรรม กิจกรรม และความสนใจเป็นแบบแผนซ้ำๆ ไม่ยืดหยุ่น ปัญหาดังกล่าวเป็นตั้งแต่เล็ก แสดงให้เห็นก่อนอายุ 3 ขวบ แต่ยังไม่สามารถหาสาเหตุของโรคที่แน่ชัดได้
          นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวถึงสถิติการให้บริการของศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กที่สถาบันว่า มีการดูแลเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าและปัญหาพฤติกรรมจำนวน 10,485 ราย ในปีงบประมาณ 2559 และเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 รายในปี 2560 สถิติเด็กที่มารับการบริการแยกตามโรคพบว่า มากที่สุดคือเด็กกลุ่มอาการออทิสติก เด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนและสมาธิสั้น กลุ่มอาการดาวน์ เด็กสมองพิการ เป็นต้น ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีในการดูแลเด็กที่มีภาวะออทิสติก อย่างเช่น ที่ศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กฯ ได้เปิดให้บริการห้องการบำบัดแบบบูรณาการ ซึ่งช่วยปรับประสาทสัมผัสที่สมดุลในเด็กออทิสติก โดยเป็นสถาบันระดับตติยภูมิที่ดูแลเด็กที่มีความบกพร่องด้านพัฒนาการของประเทศไทย ซึ่งมีการวินิจฉัยภาวะออทิสติก โดยจะดูแลรักษาและฝึกพัฒนาการในสถานที่ทันสมัยและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
          ผศ.พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู หัวหน้าศูนย์เรียนรู้ด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดห้อง Snoezelen (รากศัพท์ภาษาดัตช์ Snufflen แปลว่า สำรวจ ค้นหา Dozelen แปลว่า เคลิบเคลิ้ม ผ่อนคลาย) และใช้อุปกรณ์ตามเทคนิค Snoezelen ภายในหน่วยงาน เพื่อให้บริการในระดับตติยภูมิในการบำบัดเด็กออทิสติกแบบองค์รวม และนอกจากนี้ยังใช้ฝึกอบรมและให้ความรู้บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และเป็นศูนย์ฝึกงานของนักศึกษากิจกรรมบำบัด
          "การได้รับการบำบัดรักษาแบบองค์รวมเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีกับกลุ่มเด็กออทิสติกและเด็กพิเศษอื่นๆ บางรายมีปัญหาในด้านสติปัญญา การเรียนรู้ การบูรณาการ การรับความรู้สึก (sensory integration) การขาดความสนใจ (attention) การเพิ่มสมาธิและจดจ่อ การรู้จักควบคุมตนเอง (self regulation) การใช้ Snoezelen technique เป็นเทคนิคมาตรฐานแนวใหม่ที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลดีต่อการฟื้นฟูสมองและระบบประสาทต่างๆ ในการจัดหรือสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการ multi-sensory environment
          ห้องสนูซีเล็นถือเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสิ่งแวดล้อมตามหลักการมัลติเซ็นซอรี่ (multi-sensory environment) เพื่อส่งเสริม กระตุ้นการรับความรู้สึกพื้นฐานต่างๆ ของเด็ก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระบวนการต่างๆ ภายในระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ซึ่งการทำงานของประสาทรับความรู้สึกในสมองจะส่งผลในด้านการรู้จักควบคุมตนเอง (self-regulation) ความสนใจ (attention) แรงจูงใจซึ่งเป็นพื้นฐานในการทำกิจกรรมต่างๆ ในกลุ่มเด็กดังกล่าวต่อไป
          การจัดสภาพแวดล้อมแบบสนูซีเล็นมักประกอบไปด้วย
          1.ห้องบูรณาการระบบประสาทสัมผัสด้วย เทคนิค SNOEZELEN, WHITE ROOM: เป็นห้องที่ประกอบไปด้วยแสง สี เสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน ให้ความรู้สึกสงบสุขและปลอดภัย เป็นห้องที่ออกแบบสำหรับการผ่อนคลาย
          2.ห้องบูรณาการระบบประสาทสัมผัสด้วยเทคนิค SNOEZELEN, ADVENTURE ROOM: เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่และสิ่งของที่มีรูปทรงหลากสีสัน เป็นห้องที่ออกแบบไว้สำหรับการผจญภัยและฝึกการควบคุมตัวเอง
          ห้องฝึกทึ่มีมาตรฐานจะต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด และการมีระบบควบคุมห้องด้วยคอมพิวเตอร์จะส่งผลให้การฝึกเด็กในระดับตติยภูมิได้มาตรฐานและเต็มรูปแบบ
          ผู้ที่มีปัญหาหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการเด็ก สามารถปรึกษาหรือนัดเข้ารับบริการตรวจได้ที่คลินิกงานกระตุ้นพัฒนาการ หรือติดต่อได้ที่ โทร. 1415 ต่อ 61411.