|
|
|
ไทยโพสต์ [ วันที่ 22/06/2560 ] |
|
|
|
|
ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเด็กป.5เดือนสิงหาคมนี้ |
|
|
|
|
สาธารณสุข * สธ.เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเด็ก ป.5 เดือนสิงหาคมนี้ เผยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาดำเนินการอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์สำหรับเด็กไทยและผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหลัก
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีนเอชพีวี จะฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน ในเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 แสนคนทั่วประเทศ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม 2560 นี้ ส่วนข้อกังวลที่ว่าวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์น่าจะดีกว่าชนิด 2 สายพันธุ์นั้น ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนทั้งสองชนิดให้ผลในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่แตกต่างกัน และสามารถใช้ทดแทนกันได้ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ส่วนสายพันธุ์ 6 กับ 11 ที่บรรจุอยู่ในวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์นั้น เป็นการป้องกันโรคหูดที่อวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในกลุ่มชายรักชาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการป้องกันมะเร็งปากมดลูกแต่อย่างใด โดยคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้วางแผนดำเนินการมาหลายปีที่ต้องการให้เด็กได้วัคซีน เพื่อหวังผลป้องกันมะเร็งปากมดลูกในอีก 20-30 ปีข้างหน้า
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เสนอวัคซีนทั้งสองชนิด เพื่อเข้าเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติ คือ (ชนิด 4 สายพันธุ์ และชนิด 2 สายพันธุ์) ซึ่งพิจารณาแล้วให้ผลในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่แตกต่างกัน และสามารถใช้ทดแทนกันได้ ตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการฯ และองค์การอนามัยโลก แต่ต่อมามีการนำเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเพียงชนิด 4 สายพันธุ์เท่านั้นตามระเบียบ สปสช. ที่ต้องเลือกใช้ยาเพียงตัวเดียว (Choose only one) เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่เข้าข่าย Choose only one มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น ทำให้ขาดการแข่งขันตามกลไกทางการตลาด ซึ่งคณะกรรมการต่อรองราคายาระดับชาติก็ไม่สามารถต่อรองให้ราคาวัคซีนถูกลงได้ต่ำกว่า 375 บาทต่อโดสได้ ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของทางราชการ ทางคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติจึงได้ทำการพิจารณาอีกครั้ง แล้วจึงนำวัคซีนเอชพีวีทั้งสองชนิดเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากเป็นกลุ่มเดียวกัน และได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกแล้วว่าสามารถใช้ทดแทนกันได้ ทั้งนี้ เพื่อให้มีบริษัทเข้าร่วมในการเสนอราคามากกว่าหนึ่งราย เพื่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี ด้วยเหตุนี้ องค์การเภสัชกรรม และกรมควบคุมโรค จึงทำการจัดซื้อด้วยวิธีประกวดราคา จากราคาที่คณะกรรมการยาหลักแห่งชาติ กำหนดไว้ที่ราคา 375 บาท ทำให้จัดซื้อได้ที่ราคา 279 บาท จึงทำให้ประหยัดงบประมาณของประเทศได้ 36.8 ล้านบาท และได้วัคซีนที่สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยได้. |
| | |
|
| |
|
pageview 1220398 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |