สาธารณสุข * รองปลัด สธ.เผย คาดงบ 4.9 พันล้านช่วยสภาพคล่อง รพ.กระจายได้ภายในเดือน มิ.ย. คาดจะสามารถบรรเทา รพ.ขาดสภาพคล่องได้ 1 ปี และต้องมีการปรับปรุงสภาพการเงินในระยะยาว
          นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณกว่า 4.9 พันล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องระยะเร่งด่วน ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดสรรงบประมาณไปยังโรงพยาบาลทุกระดับในสังกัด สธ.ให้เร็วที่สุด โดยงบดังกล่าวจะไปที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นเงิน 3.3 พันล้านบาท และงบอีกกว่า 600 ล้านบาทที่ใช้ในโรคอื่นๆ เช่น โรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงๆ จะไปที่ สปสช.เช่นกัน
          รองปลัดฯ กล่าวอีกว่า จากการหารือของทุกฝ่าย เรื่องงบก้อนใหญ่ที่จะใช้ในผู้ป่วยในและเด็กแรกเกิดจำนวนกว่า 3,376 พันล้านบาท ได้ข้อสรุปในการปรับอัตราการจ่ายกรณีผู้ป่วยในใหม่จากเดิม คำนวณค่าน้ำหนักการจ่ายเงิน ที่เรียกว่า ค่า RW ซึ่งเป็นค่าน้ำหนักสัมพัทธ์เพื่อชดเชยการขาดทุน ซึ่งเดิมคิดค่าตรงนี้เฉลี่ยแต่ละแห่งไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 6,884-7,650 บาทต่อค่า RW แต่รูปแบบใหม่จะคิดเป็น 7,994 บาทต่อค่า RW ในทุกเขตสุขภาพ โดย รพ.แต่ละแห่งจะได้รับเงินก้อนนี้เฉลี่ยน้อยสุด 4.9 แสนบาทสำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็ก และโรงพยาบาลขนาดใหญ่เฉลี่ยประมาณ 100 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ป่วยใน ทั้งนี้ จากการคำนวณดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหา รพ.ขาดสภาพคล่องได้จนเกือบ 1 ปี เพราะในภาพรวมยังต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพทางการเงินต่างๆ ในระยะยาวต่อไป
          "งบดังกล่าวในขณะนี้อยู่ที่ สปสช. อยู่ระหว่างเตรียมกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ โดยขั้นตอนต้องผ่านคณะอนุกรรมการการเงินการคลัง และเสนอต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) พิจารณา คาดว่าจะสามารถกระจายได้ภายในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม สำหรับ รพ.ขาดสภาพคล่องวิกฤติระดับ 7 นั้นจะต้องใช้งบอีกส่วนที่ สธ.กันไว้อยู่แล้วประมาณ 1,700 พันล้านบาท โดยจะมาพิจารณาว่าสุดท้ายมีกี่แห่ง และต้องกระจายงบอย่างไรต่อไป" นพ.เกียรติภูมิกล่าว.