สาธารณสุข * "วิทยา" เตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวและสินามิ สั่งหาพื้นที่ปลอดภัยตั้ง รพ.สนาม พร้อมนำรถพยาบาลเคลื่อนที่เข้าประจำที่ภูเก็ต3 คัน เร่งตรวจสอบระบบสื่อสารทุกประเภทพร้อมซ้อมแผนเคลื่อนย้าย-ส่งต่อผู้ป่วย ด้านปลัดไพจิตร์ห่วงสุดที่ป่าตอง และ รพ.ใกล้ชายหาด เตรียมประชุมทางไกล สสจ.ทั่วประเทศพรุ่งนี้
          นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในที่ประชุมเตรียมความพร้อมรับมือแผ่นดินไหวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่11 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิขนาดเล็กในพื้นที่ภาคใต้ของไทยด้วย แต่ไม่ได้สร้างความเสียหาย ซึ่งต่อจากนั้นปรากฏว่ามีได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างต่อเนื่องดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยแบ่งพื้นที่เสี่ยงออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จำนวน 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี 2.กลุ่มจังหวัดใน พื้นที่รอยเลื่อนและพื้นที่ใกล้เคียง10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน และ 3.กลุ่ม จังหวัดพื้นที่ดินอ่อนมากและอาจจะได้รับผลกระทบหากเหตุแผ่นดินไหว 5 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
          นายวิทยากล่าวว่า ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงในกลุ่มที่ 1 ทางภาคใต้ขอให้จัดเตรียมรถพยาบาลเคลื่อนที่เร็วไปประจำที่จังหวัดภูเก็ต 3 คัน และให้ประจำไว้ที่พระนั่งเกล้าอีก 1 คัน ขณะเดียวกันขอให้เตรียมหาพื้นที่กับทางจังหวัดจัดหาพื้นที่ปลอดภัยไว้ตั้ง รพ.สนาม และตรวจสอบระบบการสื่อสารให้พร้อมทั้งระบบวิทยุสื่อสารเลขหมายฉุกเฉิน ระบบบันทึกข้อมูล และรายละเอียดของบุคลากรที่จะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งชื่อและเบอร์โทร.ติดต่อพร้อมทั้งซักซ้อมการเคลื่อนย้ายส่งต่อผู้ป่วยเอาไว้ด้วย ส่วนจังหวัดในกลุ่มที่ 2 จะต้องเตรียมความพร้อมและซ้อมแผนรับมือแผ่นดินไหวเอาไว้เช่นกัน เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ส่วนสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้กองวิศวกรรมการแพทย์ สธ. เข้าไปตรวจสอบและสรุปผลส่งกลับมาโดยเร็วแล้ว
          ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงว่าอาจจะได้รับผลกระทบหากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิคือ รพ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต และ รพ.เกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย จ.พังงา และ รพ.ที่อยู่ใกล้ชายหาด ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ตามที่รัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 เม.ย.นี้จะหารือร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือในเรื่องดังกล่าว
          "เราต้องจัดเตรียมศูนย์ประสานงานเอาไว้ 3 ระดับ คือ ระดับจังหวัด ระดับเขต และสุดท้ายคือที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นศูนย์กลางเอาไว้ประสานงาน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆในพื้นที่อาจจะทำได้ลำบาก อย่างที่เคยเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี47 เราก็มีส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลือ" นพ.ไพจิตร์กล่าว.