สาธารณสุข * รพ.เอกชนหนุนร่างคุ้มครองฉุกเฉินวิกฤติ ระบุกติกาใหม่ให้ สปสช.ดูแลค่ารักษาฟรี 72 ชม. เดิมไม่ชัดเจน รพ.ควักกระเป๋าเองเลยไม่อยากรับผู้ป่วย
          เมื่อวันที่ 12 มีนาคม รศ.นพ.ปิยะ เนตรวิเชียร ผอ.รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมดันร่างคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยเพิ่มสิทธิรักษาเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ 72 ชั่วโมง ไม่ต้องค่ารักษาเสนอต่อ ครม. เพื่อประกาศเป็นกฎกระทรวงให้ทันใช้เดือนเมษายน ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวนมากว่า รัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการดูแลสิทธิการรักษาสุขภาพของประชาชนที่อยู่ในสิทธิทุกระบบ ทั้งหลักกองทุนสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กองทุนประกันสังคม และกองทุนสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ที่ผ่านมามีการดำเนินการครอบคลุมทุกระบบ เมื่อมีร่างประกาศของ สธ.เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินหรือผู้ป่วยวิกฤติสีแดงออกมา มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก การมีระบบนี้ขึ้นมา เอกชนจะได้รับค่าตอบแทนจาก สปสช. หรือสำนักงายประกันสังคมตามข้อตกลงแน่นอน ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลกำไร แต่เป็นเรื่องดีที่จะเกิดระบบการรักษาร่วมกันขึ้นมากกว่า
          "ที่ผ่านมาปัญหาการรับผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชน คิดว่ามาจากที่ไม่มีข้อกำหนดชัดเจน โดยมีค่าตอบแทนต่ำมาก โรงพยาบาลต้องควักกระเป๋าตัวเอง ทำให้ไม่อยากรักษา เมื่อประกาศดังกล่าวออกมามีกติกาใหม่ว่า ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นแกนกลางในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับผู้ป่วยฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง หากเกินและต้องการรับการรักษาต่อจะคิดค่ารักษาในราคาปกติ จะทำให้ระบบการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินดีขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องการส่งต่อมีมาโดยตลอด เนื่องจากโรงพยาบาลตามสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินเตียงมักเต็ม จึงทำให้ต้องรักษาต่อในโรงพยาบาลที่รับเข้ามา คิดว่าปัญหาจะยังคงอยู่ การมีประกาศดังกล่าวออกมาจะทำให้ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐกระตือรือร้นในการรักษามากขึ้น" รศ.นพ.ปิยะกล่าว.