นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดในโลกของลูกน้อย คือ ความจริงที่มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย พยายามสื่อสารถึงผู้หญิงไทยให้เลี้ยงลูกด้วยนมมาตลอด 10 กว่าปี เน้นส่งเสริม สนับสนุน และปกป้องให้เด็กไทยได้กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน และนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนกระทั่งครบ 2 ขวบ
ดังนั้น มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย สนับ สนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 5 ขึ้น เมื่อวันที่ 2-4 กันยายน 2558 ณ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด "ภาคีร่วมใจ ช่วยแม่ไทย ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่" (Breastfeeding and work : Let's make it work) เพื่อเชิญชวนภาคีทั้งหลายที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจนี้ให้สำเร็จ โดยมีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยูนิเซฟ และ Alive and Thrive ร่วมประชุม
"จากผลสำรวจของยูนิเซฟ พบว่า ผู้หญิงไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน อยู่ที่ร้อยละ 12.3 เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป้าหมายของประเทศไทยตั้งไว้ร้อยละ 35 และในปี พ.ศ. 2568 ตั้งเป้าหมายให้ได้ถึงร้อยละ 45" พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เผยสถิติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนในไทย
พญ.ศิริพรกล่าวเพิ่มเติมว่า มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยได้ขับเคลื่อนงาน 3 ด้าน เพื่อให้สถิติของแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปถึงเป้าหมาย คือ ขับเคลื่อนด้านการจัดการเรียนการสอนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสถาบันผลิตแพทย์ โดยร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และกรมอนามัย เพื่อสนับสนุนหลักสูตรการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้กับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการส่งเสริม สนับสนุน และปกป้องให้แม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สนับสนุนมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการ หลังจากที่แม่คลอดแล้วทางโรงพยาบาลจะสอนเรื่องบันได 10 ขั้นของการประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่เมื่อแม่เข้าทำงาน และไม่ได้บีบน้ำนมเก็บไว้ ภายใน 1 เดือนน้ำนมก็จะแห้งไป สถานประกอบกิจการต้องมีมุมนมแม่เพื่อให้แม่บีบน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินอย่างต่อเนื่องไปจนครบ 2 ขวบ ตลอดจนผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก โดยร่วมกับกรมอนามัย เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ในนมผงมีสารอาหารที่เหมือนนมแม่เพียงแค่ 20% เท่านั้น แต่โฆษณาทำให้ดูเกินจริง ซึ่งนมผงไม่มีสารอาหารที่สามารถมาทดแทนนมแม่ได้เลย
ด้าน นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ประธานที่ปรึกษาปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "นมแม่มีผลต่อพัฒนาการในเด็กเล็ก" ชี้ให้เห็นความสำคัญในการสนับสนุนให้เด็กไทยได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดเป็นต้นมาจนครบอายุ 2 ขวบว่า สมองเป็นอวัยวะที่ถูกสร้างด้วยยีนและพันธุกรรม และไม่ได้สมบูรณ์เมื่อออกจากท้องแม่ เป็นอวัยวะที่ต้องตกแต่ง ช่วงที่เราสามารถตกแต่งสมองเด็กได้ คือ ช่วงอายุ 0-5 ขวบเท่านั้น ประสบการณ์เริ่มแรก (early experience) ถือว่าเป็นช่วงที่สมองจดจำ ถ้ามีประสบ การณ์ที่ดี ชีวิตเด็กก็จะมีช่วงเวลาที่ดี
"นมแม่มีฮอร์โมน ที่เรียกว่า Oxytocin มีความสำคัญมาก หลั่งสารความรัก ความไว้เนื้อเชื่อใจในระหว่างที่ลูกกินนมแม่ สร้างความเชื่อมั่นในสายสัมพันธ์ของแม่กับลูกที่ไม่มีสารใดมาทดแทนตัวนี้ได้ อีกทั้งเด็กที่กินนมแม่จะทำให้ระดับสติปัญญาสูงขึ้น (IQ) กินนมแม่ระยะ 3 เดือน ไอคิวเพิ่มมากกว่าเด็กที่กินนมผสม 2.1 เท่า กินนมแม่ระยะ 4-6 เดือนจะให้ไอคิวสูงขึ้น 2.8 จุด ส่วนให้กินระยะ 6 เดือน ไอคิวสูงขึ้น 3.8 จุด นอกจากนี้ในนมแม่ยังมีโอเมกา 3, แล็กโทส, กลูโคส, กาแล็กโทส, น้ำย่อยไขมัน, DHA, Gangliosides, กรดไซอาลิก, โคลีน, โปรตีนเวย์, กรดอะมิโนทอรีน, คาร์นิทีน ฯลฯ สารอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดการพัฒนาของสมอง นมผงไม่สามารถมาทดแทนได้" นพ.วัลลภกล่าว
สำหรับเป้าหมายของสัปดาห์นมแม่โลกในปี 2558 นี้ คือ จุดประกายให้ทุกภาคีที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมและสนับสนุนแม่ทำงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ขับเคลื่อนให้มีการบังคับใช้กฎหมายลาคลอด และเผยแพร่ข้อมูลแก่สังคมเรื่องการคุ้มครองแม่ระดับโลก ส่งเสริมให้นายจ้างสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อแม่ทำงาน ตลอดจนเกื้อหนุนให้มีการปฏิบัติที่สนับสนุนให้แรงงานหญิงนอกระบบสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้
การผลักดันให้แม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น จำเป็นต้องอาศัยหลากหลายหน่วยงานเพื่อช่วยสร้างและพัฒนาเด็กให้สมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน ชุมชน สังคม นอกจากนี้หน่วยงานรัฐควรร่วมมือด้วย อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กรุงเทพมหานคร และองค์กรเอกชน ซึ่งทุกภาคีเครือข่ายจะต้องช่วยกันภายใต้แนวคิด "ภาคีร่วมใจ ช่วยแม่ไทย ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่".
"ในนมผงมีสารอาหารที่เหมือนนมแม่เพียงแค่ 20% เท่านั้น แต่โฆษณาทำให้ดูเกินจริง ซึ่งนมผงไม่มีสารอาหารที่สามารถมาทดแทนนมแม่ได้เลย..."