HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 14/11/2556 ]
ฝึกปุ๊บกระชากวัยปั๊บ....'เสี่ยวโจวเทียน' ศาสตร์การนั่งสมาธิชั้นสูง...ขับไล่โรคภัย

 

 "ยิ้มกว้างๆ" ของคนไม่ยอมแก่ ...ที่งานนี้ตัวช่วยคงความอ่อนเยาว์อย่าง "บัวหิมะ" "โสมแดง-โสมขาว" หรือ "ถั่งเช่า" ราคาแพงลิบอาจต้อง "เปิดไฟกะพริบ" หลีกทางให้ก็เป็นได้ สำหรับ "เสี่ยวโจวเทียน" หรือศาสตร์แห่งการเรียกความอ่อนเยาว์ได้ถึง 8 ปี ที่ส่งตรงมาจากลัทธิเต๋าเพียงช่วงระยะเวลาไม่เกิน 4-5 ปีในบ้านเรา ซึ่งต้องอาศัยการฝึกสมาธิ และนำพลังลมปราณจากภายในร่างกายที่ได้ ไปซ่อมแซมและฟื้นฟูสุขภาพให้กับผู้ที่สูญเสีย "พลังชีวิต" หรือที่เรียกกันว่า "หยวนชี่" อันเนื่องมาจากไลฟ์สไตล์ที่หลายคนบ่นว่า "เสี่ยง" แต่หลายคนบอกว่า "ดี" อย่างการท่องราตรี ดื่มแอลกอฮอล์
          พูดง่ายๆ ว่า การใช้ชีวิตแบบไร้ขอบเขตทุกชนิดเป็นสาเหตุของการแก่ก่อนวัย สมองล้า หรือทำให้พลังงานชีวิตเสื่อมถอยแทบทั้งสิ้น กอปรกับกระแสรักสุขภาพที่ยังไม่สร่างซาไปจากสังคม การแข่งขันและเร่งรีบในบ้านเรา จึงไม่น่าแปลกใจว่าหลายคนเลือกเทใจให้กับศาสตร์การรักษาตัวเองผ่านการนั่งสมาธิที่ว่ามานี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น เพราะใช้เวลาฝึกน้อยแต่เห็นผลระยะยาว
          นั่นจึงถือเป็นการเปิดม่านต้อนรับศาสตร์แห่งการนั่งสมาธิสูงขึ้น ที่ถือกำเนิดมากว่า 900 ปีในแผ่นดินจีน มาสู่คนรักสุขภาพในบ้านเราได้อย่างคึกคักแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมหรือสมุนไพรราคาแพงให้เสียสตางค์ เพราะหลายคนคงไม่อาจปฏิเสธว่า การบำบัดตัวเองด้วยพลังในตัวเอง ย่อมดีกว่ารับประทานยาที่สะสมสารพิษตกค้างในร่างกายเป็นไหนๆ ...ท่ามกลางกระแสตอบรับที่ดีจากลูกศิษย์ลูกหาเกือบร้อยชีวิต
          อาจารย์หยางเผยเซิน ผู้อำนวยการศูนย์ชี่กงเพื่อสุขภาพย่านหัวลำโพง ได้ออกมาเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของ "เสี่ยวโจวเทียน" ระหว่างกายบริหารตามสวนลุมฯ อย่างไท้เก๊ก ชี่กง หรือแม้แต่โยคะ กีฬายืดเส้นยืดสายของอากงอาม่า เพื่อเปิดกว้างต่อศาสตร์แพทย์แผนจีนดังกล่าวชนิดไม่หวงวิชา เพื่อมาเสิร์ฟหนุ่มสาว "เฮลธ์ตี้" ที่กำลังเมียงมองหาตัวช่วยไกลตัว
          "บอกตามตรงว่า ศาสตร์การทำสมาธิของเสี่ยวโจวเทียน เป็นส่วนหนึ่งของชี่กง (หลักการของชี่กง ใช้พลังลมปราณทะลวงเส้นประสาทด้วยฝ่ามือ พร้อมๆ กับขยับท่าทาง) โดยมีหลักการทำงานคือใช้การนั่งฝึกสมาธิ เพื่อนำพลังลมปราณจากการฝึกฝนไปใช้บำบัดพลังงานชีวิตที่เสื่อมถอย เพื่อกระตุ้นหรือทะลวงผ่านเส้นประสาททั้ง 9 จุดสำคัญในร่างกายที่ติดขัดจากปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น โดยใช้จิตเป็นตัวสั่งการ เริ่มจากนั่งทำสมาธิและเพ่งให้จิตรวมกันที่จุดที่ 1 บริเวณใต้สะดือ หรือเรียกว่า จุดตันเถียนล่าง จากนั้นไปจุดที่ 2 ฮุ่ยอิน (จักระหน้า) ไล่ไปจุดที่ 3 เหว่ยหลี่ (ก้นกบ) จุดที่ 4 มิ่ง เหมิน (ช่วงด้านหลังสะดือ) จุดที่ 5 ต้าจุ้ย (กระดูกสันหลัง) จุดที่ 6 อวี้เจิ่น (ท้ายทอย) จุดที่ 7 ไป่ฮุ่ย (กลางศีรษะ) จุดที่ 8 ตันเถียนบน (หน้าผาก) จุดที่ 9 ตันเถียนกลาง (หน้าอก) ที่สำคัญการฝึกควบคุมลมปราณแต่ละจุดนั้นอาจต้องใช้เวลา ซึ่งแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน แต่ต้องฝึกอย่างน้อย 60 วันขึ้นไป และข้อสังเกตที่จะรับรู้ได้ว่าเกิดพลังลมปราณขึ้นในร่างกายแล้วหรือไม่นั้น ผู้ฝึกต้องรับรู้ถึงการไหลเวียนของเลือดลมที่สม่ำเสมอ และมีไฟฟ้าสถิตวิ่งอยู่ในตัวและกล้ามเนื้อ รวมถึงรู้สึกอุ่น" อาจารย์หยาง กล่าวระหว่างพักเบรกรอน้ำชาเย็นนั้น เจ้าตัวก็ได้วิเคราะห์ให้ฟังต่อว่า ไม่เพียง "เสี่ยวโจวเทียน" จะแตกต่างจากไท้เก๊กตรงที่ต้องนั่งทำสมาธิและมาจากคนละสำนักแล้ว ที่สำคัญการเรียกคืนพลังชีวิตถือเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะ อาจารย์หยาง เปรียบเทียบ "พลังชีวิต" ไว้น่าสนใจว่า เปรียบเสมือน "เงิน" หรือโภคทรัพย์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินชีวิตของคนยุคสมัยนี้ ซึ่งหากขาดพลังลมปราณแห่งการขับเคลื่อนนี้ชีวิตย่อมเดินก้าวพลาด หรือเกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย
          "ไท้เก๊กมาจากสำนักบู๊ตึ๊ง และประการสำคัญการเอ็กเซอร์ไซส์ดังกล่าวเน้นไปในเชิงรำมวยจีน ส่วนโยคะไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ต้องควบคุมลมหายใจไปพร้อมกับเคลื่อนไหวร่างกาย ตรงนี้จึงถือเป็นข้อแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า "พลังชีวิต" คือสิ่งที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกาย ดังนั้นถ้าพลังชีวิตไม่ติดขัดหรือไม่เสื่อมถอย แน่นอนว่าคนคนนั้นย่อมมีสุขภาพจิตที่ดี และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ส่วนเรื่องของความอ่อนกว่าวัยก็เป็นผลพลอยได้จากการฝึก เสี่ยวโจวเทียน แต่อย่างที่บอกว่าการฝึกควบคุมพลังลมปราณทั้ง 9 จุดนั้นเป็นเพียงขั้นตอนการฝึกขั้นที่ 3 เท่านั้น เนื่องจากเสี่ยวโจวเทียนมีถึงขั้นที่ 5 ผู้ฝึกต้องฝึกให้ถึงขั้นที่ 5 (ใช้เวลาต่ออีก 3 ปี) จึงจะถือสมบูรณ์แบบ หรือที่เรียกว่า "กึ๊กเอีย" ก็จะช่วยเรียกความอ่อนเยาว์ลงไปได้ถึง 8 ปี ซึ่งต้องฝึกทุกวัน วันละ 30-60 นาที พูดง่ายๆ ว่าการออกกำลังอื่นๆ นั้นทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่เสี่ยวโจวเทียนเป็นการเพิ่มพลังหยวนชีให้กลับคืนสู่ร่างกาย จึงให้ผู้ฝึกมีอายุยืนยาวนั่นเอง" กูรูแพทย์แผนจีน อธิบายได้ฟังถึงประโยชน์ด้านชะลอความแก่ได้ถึง "8 ปี" จากการฝึกเสี่ยวโจวเทียน เชื่อว่าหลายคนถึงกับหูผึ่งตาโต เพราะถ้าอยากดูอ่อนกว่าวัยจากการฝึกสมาธิดังกล่าวโดยไม่ง้อโบ ท็อกซ์แล้วละก็ งานนี้ อาจารย์หยาง แง้มให้ดีใจว่า "วัยไหนก็สามารถฝึกได้" และหากใครที่มีพื้นฐานในการเรียนโยคะ ไท้เก๊ก ยิ่งทำให้การฝึกเห็นผลเร็ว และทำให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น
          "ทุกอย่างบนโลกนี้ต้องประกอบด้วย 2 สิ่งเสมอ การฝึกเสี่ยวโจวเทียนก็เช่นกัน ยิ่งถ้ามีประสบการณ์เล่นโยคะหรือไท้เก๊กก็ยิ่งดี จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะเป็นการผสมผสานกันระหว่างการออกกำลังกายที่มาจากศาสตร์ตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน หรือเพิ่มทักษะของการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อภายนอกจากศาสตร์โยคะ และกระตุ้นการไหลเวียนของระบบภายในร่างกายให้เป็นปกติจากเสี่ยวโจวเทียน ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ที่จะฝึกการนั่งสมาธิขั้นสูงนี้สามารถฝึกได้ตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปีไปจนถึง 82 ปี เนื่องจากวัยรุ่นพลังชีวิตจะค่อนข้างเต็มเปี่ยม แต่หลังจากอายุ 16 ปีขึ้นไปพลังหยวนชี่จะค่อยๆ ลดลง ดังนั้นเสี่ยวโจวเทียนจึงเป็นศาสตร์ทางเลือกในการเติมเต็มพลังชีวิตของคนยุคใหม่นั่นเอง"
          จากคุณสมบัติครอบจักรวาล ทั้งการป้องกันโรคยอดฮิตกว่า 100 ชนิด แถมกระชากวัยได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมแล้ว หลายคนแอบคิดไม่
          ได้ว่าศาสตร์ดังกล่าวต้องการเผยแพร่ลัทธิ แต่อ้าง "ความงาม" เป็นกลยุทธ์หรือไม่นั้น งานนี้ อาจารย์หยาง ฝากไว้ว่า "ศูนย์ฝึกชี่กงของเราไม่ได้เน้นการสอนหลักสูตรชี่กง-เสี่ยวโจวเทียนจากลัทธิเต๋าอย่างเดียว แต่หลักสูตรชี่กง-เสี่ยวโจวเทียนที่เป็นของศาสนาพุทธก็มี และที่สำคัญเราไม่แนะนำหรือมีข้อห้ามในการปฏิบัติตัวระหว่างการฝึกใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และการที่เราระบุว่ามาจากลัทธิใดก็เพื่อบอกกล่าวถึงที่มาที่ไปนั่นเอง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่การเผยแพร่ลัทธิหรืออะไร แต่การที่เรามีการอบรมศาสตร์นี้ ก็เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพที่มีเวลาน้อย แต่ต้องการฝึกสมาธิขั้นสูงสุดเพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานครับ".

pageview  1205868    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved