แม้จะมีกูรูผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากแนะนำให้คนไทยดื่มนมกันมากขึ้น เพื่อสุขภาพและป้องกันโรคกระดูกพรุน เพราะมีการบริโภคนมในอัตราที่น้อยมากเพียง 14 ลิตรต่อปี แต่หนุ่มสาวยุคดิจิตอลต่างพากันยี้... เพราะต่างเห็นพ้องกันว่าเป็นโรคของคนสูงวัยไม่ใช่กระแสสังคมที่เจเนอเรชั่นใหม่แคร์ แต่หลายคนคงลืมไปว่า 'Forever Young' ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน เพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องเผชิญ
บิ๊กบอสแอนลีน สุภาพร อร่ามทิพย์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าจัด "คาราวานแอนลีนรณรงค์เข้มข้น วันกระดูกพรุนโลก" รณรงค์ให้คนรุ่นใหม่เริ่มใส่ใจสุขภาพกระดูกตั้งแต่วันนี้ นำทีมเดินสายให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกระดูก เนื่องในวันโรคกระดูกพรุนโลก (20 ตุลาคม) หลังการสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยทำงานที่มักดื่มนมเพียงวันละ 1 แก้ว ซึ่งให้แคลเซียมเพียง 25% ของที่ควรได้รับต่อวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนในอนาคต
รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และกรรมการมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทย เผยว่า "แม้ว่าโรคกระดูกพรุนจะฟังดูไกลตัวสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่สาเหตุหลักๆ ของโรคเกิดจากการสะสมแคลเซียมที่ไม่เพียงพอตั้งแต่วัยหนุ่มสาว บวกกับกลไกการทำงานของร่างกายที่เป็นไปตามวัย จากวัยรุ่นสู่วัยทำงานร่างกายจะเพิ่มการทำลายมากกว่าการสร้างเนื้อกระดูก เป็นผลให้มวลกระดูกลดลงทั้งเพศชายและหญิง จนอาจเป็นโรคกระดูกพรุน นำไปสู่อันตรายจากอาการกระดูกหักจากการล้ม กระแทก หรือแม้กระทั่งการไอหรือจามเพียงเล็กน้อย"
กระดูกพรุนเป็นปัญหาของประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คือ ประชากรมีอายุยืนมากขึ้น มีอัตราประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น 14-15% ทำให้มีผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มมากขึ้น และมีการตื่นตัวต่อโรคในระยะหลังๆ โดยเราสามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วยการสะสมมวลกระดูกให้กับร่างกาย เหมือนกับการฝากบัญชีออมทรัพย์ พออายุมากขึ้นก็จะมีการถอนออกมาใช้เรื่อยๆ ตอนอายุยังน้อย ร่างกายเราจะมีกลไกสร้างมวลกระดูกมากกว่าทำลาย แต่พออายุมากขึ้นๆ จะมีการทำลายมากกว่าการสร้าง
"ดังนั้น ยิ่งเราสะสมมวลกระดูกมากตั้งแต่วัยทำงานก็จะเป็นผลดีในระยะยาว โดยปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวันคือ 800-1,000 มิลลิกรัม ซึ่งในนมทั่วไป 1 แก้วจะมีแคลเซียมประมาณ 200-250 มิลลิกรัมเท่านั้น ยังมีอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์หลายประเภท และทางเลือกอื่นๆ ที่จะช่วยให้เราสะสมแคลเซียมได้ดีขึ้นวันนี้ เราอาจมองว่าร่างกายยังแข็งแรงดี แต่ถ้ามองในระยะยาว อยากเป็นผู้สูงวัยที่สุขภาพดี อายุยืน สุขภาพกระดูกแข็งแรง ไม่เป็นภาระให้คนอื่น ก็ต้องหมั่นสะสมมวลกระดูก ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุน"