โรคกระดูกพรุนเป็นปัญหาใหญ่ของกลุ่มคนที่ก้าวสู่วัยสูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิง การวินิจฉัยโรคได้เร็วและแม่นยำจะเพิ่มโอกาสในการป้องกันและรักษาได้มาก ปัจจุบันมีการพัฒนาอุปกรณ์ชนิดใหม่ซึ่งใช้เข็มแทงเข้าไปในกระดูกโดยตรง ช่วยร่นเวลาการตรวจและให้ความแม่นยำด้วย
ฟังดูน่ากลัว แต่เครื่องตรวจขนาดเล็กนี้สามารถให้ความแม่น ยำได้มากกว่าการสแกนดีอีเอ็กซ์เอ (Dual Energy X-ray Absorptiometry) หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และช่วยให้แพทย์คำนวณความหนาแน่นของกระดูกและประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยอุปกรณ์นี้จะมีเข็มขนาดเล็กมากที่ส่วนปลาย ใช้สอดเข้าไปในกระดูกหน้าแข้งของคนไข้หลังจากฉีดยาชาแล้ว
เข็มนี้จะทะลุเข้าไปแค่เศษเสี้ยวของมิลลิเมตรแต่สามารถวัดได้ว่ากระดูกเรามีความแข็งแรงและสมบูรณ์ดีหรือไม่ เช่น หากความหนาแน่นของกระดูกอยู่ในเกณฑ์ปกติ เข็มจะหยุดที่ความลึก 20 ไมโครเมตร หรือแค่ 0.02 มิลลิเมตร เท่ากับความหนาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเส้นผมคนเรา แต่หากเข็มทะลุลงไปถึง 40 ไมโครมิลลิเมตร หรือ 0.04 มิลลิเมตร นั่นจะบ่งชี้ว่ากระดูกมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแตกร้าว
เหตุผลดังกล่าวมาจากลักษณะของกระดูกที่มีโครงสร้างคล้ายกับรังผึ้ง เมื่อกระดูกเริ่มอ่อนแอที่นำไปสู่ภาวะกระดูกพรุน รูรังผึ้งนี้ก็จะขยายขึ้น ซึ่งเท่ากับกระดูกมีความหนาแน่นน้อยลง เข็มจึงสามารถแทงเข้าไปได้ลึกขึ้น
นักวิจัยกล่าวว่า การทดสอบแบบนี้ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที และแทบไม่ทิ้งร่องรอยไว้เกินว่ารอยเข็มเล็กๆ ส่วนการเลือกตรวจที่กระดูกหน้าแข้งนั้นเป็นเพราะกระดูกส่วนนี้มีขนาดใหญ่และตรวจได้ง่าย
ผลดีของการใช้อุปกรณ์ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท แอคทีฟไลฟ์ไซแทนทิฟิก จากสหรัฐ จะช่วยให้แพทย์สามารถวัดความแข็งแรงของกระดูกได้ทันที และเมื่อพบสัญญาณว่ากระดูกมีความอ่อนแอ ก็ค่อยส่งผู้ป่วยเข้าเครื่องสแกนให้ชัดเจน.