HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 11/09/2556 ]
'ช่วงวัย'ของเด็กกับพัฒนาการการเรียนรู้

  ในเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมศักยภาพสถานศึกษา เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ระดับประถมศึกษา จัดโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล เมื่อเร็วๆ นี้ "ครูอุ้ย" อภิสิรี จรัลชวนะเพท ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวอลดอร์ฟ และประธานมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลบ้านรัก ได้มาช่วยไขปริศนาคลายข้อข้องใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างช่วงวัย และพัฒนาการการเรียนรู้ที่เด็กแต่ละคนควรได้รับก่อนที่เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งครูที่เข้าร่วมอบรมสามารถนำไปปรับใช้ได้กับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน
          "ครูอุ้ย" กล่าวว่า ช่วงวัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อคนเราที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ หากได้รับการเรียนรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกันไปในแต่ละวัยแล้ว เราก็สามารถจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงตามมาด้วย โดยเฉพาะช่วง 21 ปีแรกที่มีความสำคัญยิ่งต่อชีวิตช่วงที่เหลือ โดย
          * วัยแรกเกิด-7 ขวบ เด็กวัยนี้จะมีความมุ่งมั่น (Will) ตั้งใจที่จะทำอะไรๆ ให้สำเร็จ ขณะเดียวกันเขาก็ยังใหม่ต่อโลกมาก สิ่งที่เราต้องเตรียมให้เขาคือ โลกที่สวยงาม โลกที่ให้คุณค่ากับความดีงาม ทำให้เขามั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ โดยวัยแรกเกิด-7 ขวบ ยังส่งผลถึงวัย 35-42 ปี หากวัยเด็กได้รับความอบอุ่น ในวัย 35-42 ปี เขาจะรู้จักตัวเองว่าควรต้องทำอะไรด้วยความมุ่งมั่นให้สำเร็จ แต่ถ้าในวัยเด็กไม่ถูกเสริมสร้างให้สมบูรณ์ตั้งแต่วัยอนุบาล พอถึงวัยทำงานก็จะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้ยาก
          * วัย 7-14 ปี เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างวัยเด็กและวัยรุ่น เขาจะเริ่มมีความปรารถนา รู้สึกถึงความสวยความงาม ความละเอียดอ่อน เพศตรงข้าม ให้ความสำคัญกับความรู้สึก (Feeling) สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเขาต้องเป็นสิ่งที่เข้ามาในโลกของความรู้สึกของเขาได้ สิ่งที่นำมาสร้างการเรียนรู้ให้เขาควรเน้นไปที่การสร้างความงามจากภายใน คือ "ศิลปะ" ซึ่งตีความรวมไปถึงดนตรีและกีฬา ไม่ว่าเราจะสอนอะไรให้กับเขา อย่าลืมที่จะเปิดโอกาสให้เขาเชื่อมโยงสิ่งนั้นๆ เข้ากับโลกทางศิลปะด้วย
          * วัย 14-21 ปี เป็นวัยของการคิด (Thinking) เด็กวัยนี้จะมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่จะขอใช้เวลาครุ่นคิดกับสิ่งที่เขาสนใจ เด็กในวัยนี้ยังต้องการคนที่มีประสบการณ์ตรงและเป็นผู้เชี่ยวชาญให้การชี้แนะ ตลอดจนครูจึงมีส่วนสำคัญที่จะสนับสนุนให้เขามีหลักในการคิด หล่อหลอมเขาด้วยศรัทธา และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เขาผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง ปลอดภัย เช่น การจัดการเรียนรู้ผ่านการทำโครงงาน
          "ครูอุ้ย" เน้นย้ำว่า ช่วงวัย 14-21 ปีนี้ ยังส่งผลต่อเนื่องเรื่อยไปจนถึงช่วงต้นของวัยทำงาน อายุ 21-28 ปี ในรายของเด็กที่ค้นพบเป้าหมายของชีวิตในวัย 14-21 แล้ว ก็จะเป็นวัยทำงานที่มีพลังความมุ่งมั่นตั้งใจไปตลอด ขณะที่ในรายของเด็กที่ยังค้นไม่พบว่าตัวเองต้องการอะไร ก็จะก้าวข้ามช่วงวัย 21-28 ปีอย่างเหงาหงอย ไร้ชีวิตชีวา
          ที่สำคัญ เมื่อย่างเข้าวัย 42-63 ปี จะเป็นช่วงวัยของการคิดอีกครั้งหนึ่ง แต่จะเป็นการคิดที่ต่างจากช่วงวัย 14-21 ปี ที่จะยกระดับการคิดเป็นคิดใคร่ครวญ ดังที่เราจะสังเกตได้ว่านักคิด นักเขียนหลายท่าน ล้วนสร้างสรรค์ผลงานของตนในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงอายุ 56-63 ปี หลังจากได้เรียนรู้โลกมาหมดแล้ว ก็จะมาสนใจเรียนรู้ความรู้ด้านคุณธรรม ใช้ช่วงปลายของชีวิตใช้ความรู้ที่สั่งสมมาสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น
          "ถ้าเราเป็นครู คงทำสิ่งดีที่สุดในช่วงอายุที่เราดูแลรับผิดชอบเขา ทำให้เต็มที่ เพื่อที่มันจะได้ส่งผลต่อช่วงชีวิตต่อๆ มาของเขาที่จะไม่พลาด ให้เขางดงามภายใน ประคองชีวิตและครอบครัวให้มันงดงามยิ่งๆ ขึ้นไป" ครูอุ้ยปิดท้าย.


pageview  1205836    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved