หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดขนมหวานหรือลูกอมหลังอาหารเที่ยง และมักจะคิดว่าเดี๋ยวมันต้องไปกองอยู่ที่สะโพกของคุณแล้วละก็ จากผลการศึกษาใหม่พบว่า คุณสาวๆ ที่มักเคยชินกับพฤติกรรมการบริโภคขนมขบเคี้ยวดังกล่าว ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะคุณอาจไม่เคยรู้ว่าเจ้าขนมขบเคี้ยวดังกล่าวนั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของคุณ "เหี่ยว" ก่อนวัยได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
          บรูก อัลเพิร์ต นักเขียนชื่อดังเจ้าของผลงาน การควบคุมน้ำหนักด้วยการดีท็อกซ์ ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจว่า ผู้บริโภคหลายคนมักให้ความสนใจไปที่ความอร่อยของคุกกี้หลังอาหารกลางวัน มากกว่าที่จะตระหนักว่าแท้จริงแล้ว น้ำตาลที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในขนมหวานเหล่านี้ เป็นสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาหย่อนคล้อย และริ้วรอยบนใบหน้าของเจ้าหล่อน
          หลังจากที่เธอได้เขียนหนังสือร่วมกับแพทย์ผิวหนังนาม แพทริเซีย ฟาร์รีส จึงได้ข้อสรุปที่กระทบความรู้สึก ของคนรักความหวานอย่างร้ายกาจว่า ปัจจัยริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากการมีน้ำตาลไปสะสมอยู่ที่บริเวณกระแสเลือดของคุณมากเกินไป จึงทำให้ผิวพรรณของคุณดูไม่เปล่งปลั่งสดใสนั่นเอง โดยน้ำตาลจะเริ่มทำร้ายผิวสวยๆ จากการยึดเกาะหรือกัดกินโปรตีนอาหารผิวของคุณ รวมถึงดูดซึมคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ยืดหยุ่น และสดใสเปล่งปลั่งให้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้คุณสาวๆ มีปัญหาริ้วรอยก่อนวัยอันควรจากอาหารว่างนั่นเอง
          ดังนั้น หากคุณสาวๆ ทั้งหลายอยากมีใบหน้าที่เนียนใสดูอ่อนกว่าวัยไปนานๆ นั้น เธอแนะนำว่า ให้ลองเปลี่ยนจากคุกกี้หรือลูกกวาดแสนหวาน มาเป็นผลไม้สดหลังอาหารแทนจะดีกว่า หรือถ้าจะให้เป๊ะไปกว่านั้น ลองเปลี่ยนนิสัยการดื่มกาแฟที่หนักไปทางครีมและน้ำตาล เป็นกาแฟดำก็น่าจะช่วยได้ไม่น้อย เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าน้ำตาลที่ได้จากผลไม้จะมีอันตรายน้อยกว่าน้ำตาลที่ได้จากการสกัดนั่นเอง มากไปกว่านั้นการเข้ารับโปรแกรมล้างพิษ และการบริโภคน้ำตาลให้ลดน้อยลงจะทำให้คุณสาวๆ ดูอ่อนกว่าวัยลงได้ถึง 1 ปีเลยทีเดียว.