HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 23/09/2564 ]
คาดได้ตัวเลขยินยอมฉีดวัคซีนนร.สัปดาห์หน้า

'อนุทิน'ย้ำให้ไฟเซอร์เด็กอายุ12-17ปีต้องสมัครใจแต่ไม่นำมาเป็นข้อจำกัดการได้ไปรร.
          ศึกษาธิการ * "ตรีนุช" วางแผนเปิดเรียนเทอม 2 มอบ ศธจ.-สพท.เจ้าภาพหลักรวมข้อมูล คาดได้ตัวเลขผู้ปกครองยินยอมเด็กฉีดวัคซีนสัปดาห์หน้า ส่วนเด็กอนุบาลและระดับประถมดึงกุมารแพทย์ร่วมพิจารณาว่าควรเปิดเรียนในรูปแบบไหน ด้าน "อนุทิน" ยันฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็กอายุ 12-17 ปีต้องสมัครใจ ผู้ปกครองยินยอม แต่ไม่นำมาเป็นข้อจำกัดเด็กได้ไปโรงเรียน ส่วน อย.กำลังรอข้อมูลซิโนฟาร์ม
          นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้วางแผนมาตรการเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่ง ศธ.จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการวางแผนการเปิดภาคเรียนให้อยู่ภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพ พร้อมกับการวางแผนการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปี ว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง เบื้องต้นศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการรวบรวมข้อมูลและชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบถึงแนวทางการฉีดวัคซีน เพื่อประสานข้อมูลการฉีดวัคซีนร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด สำหรับข้อมูลนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้เข้ารับวัคซีน คาดว่าจะรับทราบอย่างครบถ้วนภายในสัปดาห์หน้าว่าจะมีจำนวนเท่าไร และแม้ว่าจะมีการเปิดเรียนรูปแบบ Onsite แล้ว แต่หากผู้ปกครองยังมีความกังวลที่จะให้บุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน ก็สามารถให้เรียนที่บ้านผ่านรูปแบบการเรียนอื่นๆ ได้เช่นกัน ศธ.ไม่มีการบังคับให้เด็กฉีดวัคซีนหรือมาเรียนที่โรงเรียน
          นางสาวตรีนุชกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปจัดทำแผนการเปิดภาคเรียน ว่าจะวางแนวทางการเปิดเรียนในรูปแบบปกติอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กระดับปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ จะวางแนวทางดูแลเด็กกลุ่มนี้ให้ปลอดภัยอย่างไรเมื่อมีการเปิดเรียนตามปกติแล้ว นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.และ สพฐ.ไปประชุมร่วมกับแพทย์ด้านกุมารเวช เพื่อวางแผนเปิดเรียนอย่างปลอดภัยให้แก่เด็กกลุ่มนี้ เพราะขนาดของสถานศึกษามีความแตกต่างกัน มีตั้งแต่โรงเรียนขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็กดังนั้นการเปิดเรียนในรูปแบบปกติจะต้องเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกับกลุ่มโรงเรียนขนาดไหนมากที่สุด เช่น โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล มีนักเรียนอยู่ 50 คน จะต้องวางมาตรการเปิดเรียนอย่างไรบ้าง เป็นต้น
          "การเปิดภาคเรียนที่ 2 ในรูปแบบปกติ หรือ Onsite นั้น เราจะไม่ยึดพื้นที่สีแดงแล้ว แต่จะพิจารณาเปิดภาคเรียนลงไปในระดับชุมชน อำเภอ หรือตำบล โดยหากชุมชนไหนปลอดเชื้อเป็นพื้นที่สีเขียว เราจะให้โรงเรียนเปิดเรียนแบบ Onsite ตามปกติ เพื่อไม่ให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้ เพราะเราปิดเรียนมากว่า 1 ภาคเรียนแล้ว ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เอื้อให้เปิดเรียนตามปกติได้ เราต้องทำ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่ปลอดภัยสูงสุดด้วย ส่วนโครงการ "โรงเรียน Sandbox Safety Zone in School" (SSS) นั้น ขณะนี้เฟสแรกดำเนินการไปแล้ว ส่วนเฟสที่ 2 จะดำเนินการกับเอกชนประเภทโรงเรียนนานาชาติที่สลับการเรียนในรูปแบบประจำและไป-กลับ" รมว.ศธ.กล่าว
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐ มนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 12-17 ปีว่า รัฐบาลจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพื่อฉีดให้แก่เยาวชนอายุ 12 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็น กลุ่มวัยเรียนที่ต้องมีสังคมและกลับไปโรงเรียน ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนมีความปลอดภัย มีข้อมูลวิชาการรองรับ แต่การฉีดในเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องให้ผู้ปกครองยินยอม ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจ และไม่ได้นำมาเป็นข้อจำกัดไม่ให้เด็กไปโรงเรียน โดยวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกจะมาถึงวันที่ 29 กันยายนนี้ และส่งให้ครบ 30 ล้านโดสในเดือนธันวาคม 2564 ส่วนกลุ่มอายุต่ำกว่า 12 ปี ต้องรอผู้ผลิตวัคซีนยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนกับ อย.เพิ่มเติม และเมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะเร่งจัดหามาฉีดต่อไป
          ส่วน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ทาง อย.กำลังพิจารณาอนุญาตวัคซีนจากข้อมูลความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผล จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลการวิจัยของวัคซีนที่เพียงพอที่จะยืนยันความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผล ซึ่งขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 ที่ อย.อนุญาตให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปแล้ว จำนวน 2 ชนิด คือวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ส่วนวัคซีนซิโนฟาร์ม คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิของ อย.ได้พิจารณาแล้วว่ายังไม่สามารถอนุญาตให้ขยายการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปได้ในขณะนี้ แต่ไม่ใช่การไม่อนุญาตโดย อย.อยู่ระหว่างรอการจัดส่งข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลเพิ่มเติมจากบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด.


pageview  1205836    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved