|
|
|
ไทยโพสต์ [ วันที่ 19/06/2561 ] |
|
|
|
|
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโรคที่เกิดจากนั่งและยืนไม่ถูกท่า |
|
|
|
|
ตัวที่มากเกินไปาการโรคอันเกี่ยวกับหมอนรองอกระดูกทับเส้นประสาทนั้น มิได้มีเพียงแต่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะเจอะเจอ แต่สามารถเกิดกับคนวัยหนุ่มสาวได้หากมีพฤติกรรมยกของหนักด้วยท่าที่ไม่เหมาะสม นั่งหรือยืนทำงานไม่ถูกท่า ส่งผลต่อความเสื่อมของหมอนรองกระดูกให้ไวขึ้น เสี่ยงต่อโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
นพ.ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า หมอนรองกระดูก คือ เนื้อเยื่อที่มีลักษณะด้านนอกคล้ายยางรถยนต์ ส่วนด้านในจะมีลักษณะคล้ายวุ้น อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ตั้งแต่คอ อก จนถึงเอว ทำหน้าที่เป็นข้อต่อรองรับการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง และมีหน้าที่ช่วยรับแรงกระแทก เมื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ยืน กระโดด บิดตัว และเพิ่มความยืดหยุ่นของการเคลื่อนไหว ในกรณีที่เกิดความเสื่อมของหมอนรองกระดูกตามอายุและการใช้งาน จะทำให้รับน้ำหนักและยืดหยุ่นได้น้อยลง เกิดการปลิ้นและโป่งขึ้นของหมอนรองกระดูกจนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่โดยรอบแนวกระดูกไขสันหลัง เรียกว่า ภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
"โดยปกติแล้วหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมักเกิดกับกลุ่มคนอายุมาก แต่อาจเกิดในวัยหนุ่มสาวได้หากมีกิจกรรมที่ส่งผลต่อความเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่ไวขึ้น เช่น ยกของหนักด้วยท่าที่ไม่เหมาะสม นั่งหรือยืนทำงานที่ไม่ถูกท่า ได้รับอุบัติเหตุหรือกระทบกระแทกรุนแรงที่กระดูกสันหลัง ออกกำลังกายหักโหม และน้ำหนักตัวที่มากเกินไป"
นพ.พงษ์วัฒน์ พลพงษ์ นายแพทย์ชำนาญการด้านเวชกรรม สาขาประสาทศัลยศาสตร์ สถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในผู้ป่วยแต่ละรายอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ถูกกดทับ โดยถ้ากดทับที่เส้นประสาทบริเวณคอ จะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดร้าวลงไปแขนขา ข้างใดข้างหนึ่ง ชาแขน ล้าขา หรืออ่อนแรงแขนขา แต่ถ้าเกิดการกดทับเส้นประสาทส่วนเอว จะมีอาการปวดบริเวณเอว ร้าวลงสะโพกและขา กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กระดกข้อเท้าหรือนิ้วโป้งเท้าไม่ขึ้น หากมีอาการรุนแรงจะชาไปรอบๆ ก้น และขับถ่ายอุจจาระ-ปัสสาวะลำบาก สำหรับแนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการที่เป็นอยู่ โดยเริ่มจากพักการ ใช้งาน หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้งานส่วนคอและเอวรุนแรง ร่วมกับการทานยา เพื่อลดอาการอักเสบ ทำกายภาพบำบัด เพื่อให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาการพักฟื้นประมาณ 1-3 เดือน ในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจต้องผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
ส่วนการป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คือ ไม่ยกของหนัก หรือยกของในท่าเดิมๆ มากเกินไป ปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หมั่นออกกำลังกาย ทำกายบริหารเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นคอ หลังและหน้าท้อง ไม่ควรมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกลดลง และเกิดการเสื่อมเร็วขึ้น และที่สำคัญหากมีอาการผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์.
"โดยปกติแล้วหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมักเกิดกับกลุ่มคนอายุมาก แต่อาจเกิดในวัยหนุ่มสาวได้หากมีกิจกรรมที่ส่งผลต่อความเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่ไวขึ้น เช่น ยกของหนักด้วยท่าที่ไม่เหมาะสม นั่งหรือยืนทำงานที่ไม่ถูกท่า ได้รับอุบัติเหตุหรือกระทบกระแทกรุนแรงที่กระดูกสันหลัง ออกกำลังกายหักโหม และน้ำหนักตัวที่มากเกินไป" |
| | |
|
| |
|
pageview 1204512 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |