|
|
|
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 09/04/2561 ] |
|
|
|
|
ออเจ้า อวสาน! ห่วงกลุ่มเสี่ยงอินไม่เลิก ป่วยซึมเศร้า-ติดโซเชียล |
|
|
|
|
ต่อยอดกระแสออเจ้าสุดปัง กระทรวงวัฒนธรรมร่อนหนังสือเชิญผู้สร้าง ผู้จัด ผู้ผลิต ผู้เขียนบทละคร และภาพยนตร์ทุกค่ายทุกช่อง เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ หวังผลิตงานสอดรับกับนโยบายรัฐบาล นำทุนทางวัฒนธรรมไปสร้างผลงานดีๆ ก่อประโยชน์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ ด้านกรมศิลปากรยังปลื้มไม่หาย ละครดังดึงคนแห่เที่ยวชมโบราณสถานสำคัญทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี ขณะที่จิตแพทย์รีบเตือนก่อนละครจะลาโรง ห่วงแฟนละครอินจัดจนปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 กลุ่มเสี่ยง “ป่วยซึมเศร้า-ติดโซเชียล” แนะหากิจกรรมอื่นๆทำ เพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง
จากกระแสความดังของละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ยังคงมีต่อเนื่อง จนนำไปสู่การผลักดันนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ใช้มิติทางวัฒนธรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมในแง่มุมต่างๆ อาทิ เกี่ยวกับอาหารไทย ผ้าไทย รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะช่างไทยโบราณแขนงต่างๆ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้คนไทยและคนทั่วโลกเห็นถึงความงดงามของศิลปวัฒนธรรมของไทยแง่มุมต่างๆ ผ่านจากละครและภาพยนตร์นั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ส่งหนังสือเชิญผู้สร้าง ผู้จัด ผู้ผลิต ผู้เขียนบท ละคร และภาพยนตร์ จากสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงบริษัทผลิตภาพยนตร์ เข้าร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น มุมมองของการดำเนินงานให้เกิดขึ้นได้จริง และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ที่กระทรวงวัฒนธรรม
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวอีกว่า ในส่วน วธ.เชื่อมั่นว่าหากทุกฝ่ายปรับมุมมองมาในทิศทางเดียวกัน ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ก็จะเกิดภาพละครและภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์ นำทุนทางศิลปวัฒนธรรมของประเทศไปสร้างเพื่อก่อประโยชน์ และนำพาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศได้ อีกทั้งยังเป็นการเปิดตลาดทางเลือกการผลิตละครไทยที่มีเนื้อหาถ่ายทอดความเป็นไทยให้ออกสู่สายตาชาวต่างชาติ ขณะเดียวกัน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนกับผู้ประกอบการทุกด้าน ทั้งในส่วนองค์ความรู้ ข้อมูลทางวิชาการต่างๆ ทั้งทางเอกสาร และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปประกอบการสร้างละครและภาพยนตร์ เพื่อให้เรื่องราวมีความถูกต้อง ตลอดจนยังมีงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อสร้างละครน้ำดีให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การส่งหนังสือเชิญอาจจะไม่ทั่วถึงทุกหน่วยงาน ซึ่งหากผู้สนใจจากส่วนอื่น ต้องการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วธ.พร้อมเปิดให้ร่วมประชุมได้
วันเดียวกัน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมโครงการวรรณคดีและประวัติศาสตร์สัญจร ตามรอย ต่อยอด บุพเพสันนิวาส จากอยุธยาสู่ลพบุรี พาประชาชนที่สนใจ รวมถึงสื่อมวลชนเดินทางไปยังแหล่งโบราณสถานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับในละครบุพเพสันนิวาส ใน จ.พระนครศรีอยุธยา อาทิ พระราชวังโบราณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และโบราณสถานใน จ.ลพบุรี อาทิ พระนารายราชนิเวศน์ บ้านวิชาเยนทร์ หรือบ้านหลวงรับราชทูต ฯลฯ
ทั้งนี้ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้รับรายงานถึงนักท่องเที่ยวที่เข้าชมโบราณสถาน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงหนาแน่น และสวมใส่ชุดไทยมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนาราม ช่วงหัวค่ำมีความคึกคักมาก เพราะอากาศไม่ร้อน โดยกรมศิลปากรเปิดให้เข้าชมถึงเวลา 22.00 น. จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขณะที่ โบราณสถาน จ.ลพบุรี พบว่าได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ในส่วนพระนารายณ์ราชนิเวศน์ และบ้านวิชาเยนทร์ สถานที่พำนักของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน เพราะมีปรากฏอยู่ในฉากละครในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และในสัปดาห์หน้าก็ที่จะมีฉากสำคัญของตัวละครฟอลคอน ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเที่ยวชมมากขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนขอชื่นชมผู้สร้างละครเรื่องนี้ ได้ศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี และมีการเติมสีสันความบันเทิงไปบ้าง เพื่อให้ผู้ชมได้รับอรรถรสของละครมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ตามกำหนดการออกอากาศละครฮิตเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องมาถึงตอนจบในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ทำให้จิตแพทย์ออกมาเตือนด้วยความเป็นห่วงแฟนละครที่อาจปรับตัวไม่ได้หลังละครจบ โดย พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผอ. สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ละครบุพเพสันนิวาส ถือเป็นละครที่น่าสนับสนุน เพราะเป็นละครที่ทำให้เรายอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งยังเป็นความคิดเห็นเชิงบวก ซึ่งถือเป็นอีกรูปแบบที่ใช้ละคร ทำให้คนหันมาคิดบวก ทำบวก ดังนั้น น่าที่จะสนับสนุนให้สร้างละครลักษณะนี้ เพราะช่วยสอนสังคม ทั้งยังเป็นละครที่คนไทยชอบเพราะมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมดีๆของไทย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อละครใกล้ถึงตอนจบ มักจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบละครเรื่องนี้ มีภาวะเหมือนขาดหายอะไรบางอย่างในชีวิต เหมือนพลัดพรากจากสิ่งที่เราประทับใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เวลาเราประทับใจอะไรมากๆ มีความรักความผูกพัน ทั้งยังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงที่เจริญของประเทศ เราก็จะมีภาวะนี้ได้ แต่เราก็สามารถแปรเปลี่ยนความผูกพันนั้นได้ ด้วยการหันมาอนุรักษ์หรือพูดคุยแบบไทยๆ หรืออาจจะไปดูย้อนหลังในตอนที่ชอบ หรือไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม เป็นงานอดิเรกก็ได้ แต่หากทำวิธีดังกล่าวแล้วยังไม่ดีขึ้น ยังมีอาการเบื่อๆเซ็งๆ ก็ให้เราดูว่า นอกจากการดูละครแล้วยังมีอะไรอีกหรือไม่ที่ทำให้เรามีความสุขได้อีก เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราก็ค่อยๆ ปรับตัวได้ และที่สำคัญช่วงนี้กำลังเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ก็ให้หันมาใส่ชุดไทย ทำอาหารไทยๆ รับประทานกันก็จะช่วยได้ เป็นต้น
พญ.มธุรดากล่าวว่า ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต ที่ติดละครบุพเพสันนิวาสก็อาจจะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น โดยมี 2 กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ที่พอดูละครก็จะมีความสุขแต่พอละครจบก็อาจจะรู้สึกเหมือนมีอะไรหายไป และ 2.กลุ่มคนที่ติดโซเชียลมีเดีย เพื่อนที่เป็นคอเดียวกันจะหายไป ก็อาจจะอินมากเป็นพิเศษพอละครจบ อาจจะเหมือนอะไรบางอย่างในชีวิตหายไป ดังนั้น เราจะต้องมาสร้างความสุขให้ตัวเองโดยการคิดดี พูดดี ทำดี เพื่อเสริมกำลังใจ และที่สำคัญคือสารแห่งความสุขนั้น เราสามารถสร้างด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องดูละครเพียงอย่างเดียว แต่หันทำในสิ่งที่ชอบ เช่น เดินเล่น ออกกำลังกาย เพราะละครจะสร้างความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราวมีเริ่มต้นก็มีตอนจบ แต่สิ่งที่อยู่กับตัวเราอย่างสารแห่งความสุขที่ไม่มีขายเราสร้างขึ้นมาเอง และที่สำคัญที่สุดคือการหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง ในกลุ่มผู้ป่วยก็อย่าลืมรับประทานยาด้วย
วันเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความนิยมละครอิงประวัติศาสตร์ที่ทำให้คนไทยสนใจเดินทางท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถาน และศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดจำหน่ายหนังสือในหมวดประวัติศาสตร์ โบราณคดี และอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญในอดีตเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และอยากให้เกิดความยั่งยืน คนไทยเกิดความใฝ่รู้ รักความเป็นไทย และสืบสานมรดกทาง วัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติตลอดไป นายกฯให้แนวทางกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทยไปค้นหาเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความโดดเด่น เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่สนใจเกี่ยวกับรากเหง้าและวิถีชีวิตแบบไทย โดยเฉพาะในเมืองรอง 55 จังหวัด ที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวอยู่ในขณะนี้ |
| | |
|
| |
|
pageview 1204381 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |