กิมจิ และ จักรพรรดิ...เป็นสายพันธุ์ลิ้นจี่...ที่มีผู้นิยมบริโภคกันมากที่สุด ในบ้านเรามีพื้นที่ปลูกอยู่หลายแหล่งแทบจะทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือจนลงมาถึงจังหวัดสมุทรสงคราม...
          แต่เมื่อผลผลิตออกมามาก ก็ส่งผลให้ราคาตกต่ำได้...ทำให้เกิดการแปรรูปมากมาย และอีกแนวทางหนึ่งนักวิจัยจาก...มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประสบความสำเร็จในการ "ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของลิ้นจี่" ใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อ...ปกป้องตับ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และ แก้ปวด
          ...โดย ศ.พญ.เลิศลักขณา ภู่พัฒน์ อาจารย์ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะผู้วิจัยประกอบด้วย ดร.สมเดช ศรีชัยรัตนกูล ดร.ดวงตา กาญจนโพธิ์ ดร.ธวัช แต้โสตถิกุล และ ดร.หทัยรัตน์ ธนัญชัย ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของลิ้นจี่เลือกใช้...พันธุ์กิมเจ็ง และ จักรพรรดิ ในการปกป้องตับ ฤทธิ์ต้านการอักเสบแก้ปวดต่อเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกัน และ Tissue Microarray ในสัตว์ทดลองคือ หนูขาว
          ศ.พญ.เลิศลักขณา ภู่พัฒน์ บอกอีกว่า ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดที่ได้จากเนื้อลิ้นจี่สดทั้งสองสายพันธุ์ ประกอบด้วย วิตามินซี และ กลุ่ม สารโพลีฟีนนอล ซึ่งสารประกอบทั้งสองมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้และเมื่อใช้สารสกัดลิ้นจี่ในรูปแบบการทดลอง lipid peroxidation พบว่า สามารถป้องกันพิษต่อตับ โดยทดสอบใน หนูขาวที่เหนี่ยวนำให้เกิดพิษต่อตับด้วย cc14, paracetamol และ D-galactosamine พบว่าสารสกัดจากลิ้นจี่ทั้งสองสายพันธุ์ สามารถป้องกันการเกิดพิษต่อตับได้ ซึ่งเห็นได้จาก แนวโน้มการลด activity ของเอนไซม์ใน serum
          ...จากการวิเคราะห์ ทางพยาธิวิทยาของเนื้อเยื่อตับ พบว่าสัตว์ทดลองที่ทำให้เกิดพิษต่อตับด้วยสารเหนี่ยวนำทั้งสามเมื่อได้รับสารสกัดลิ้นจี่พยาธิสภาพของเนื้อเยื่อตับมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งผลของสารสกัดลิ้นจี่ดังกล่าวคล้ายคลึงกับผลของ silymarin ซึ่งเป็นสารมาตรฐานที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และฤทธิ์ระงับปวด...
          "ในการทำสอบผลของสารสกัดลิ้นจี่ต่อระบบภูมิคุ้มกันได้ศึกษาผลต่อทั้ง innate และ adaptive immunity ในหนูขาวแล้ว พบว่า สารสักดจากลิ้นจี่ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันและยังมีผลต่อการสร้างไซโตคายน์ของ Tlymphocyte ส่วนในด้านความปลอดภัยจากการบริโภคสารสกัดลิ้นจี่ พบว่าการป้อนสารสกัดในขนาดสูง 500 มก.ต่อกก.ของน้ำหนักแก่หนูขาว ทุกวันติดต่อกัน นาน 90 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลากับที่ใช้ทดสอบความเป็นพิษกึ่งเรื้อรัง ไม่ทำให้หนูขาวเสียชีวิต ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก และพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อสำคัญในร่างกาย"
          สรุปได้ว่า "โอสถสารจากลิ้นจี่กิมเจ็งและจักรพรรดิ" มีคุณค่าทางอาหารและบ่งชี้ถึงศักยภาพที่จะพัฒนา...เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร...เพื่อปกป้องการทำลาย การอักเสบของตับจากสารพิษได้