|
|
|
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 09/02/2560 ] |
|
|
|
|
แฉไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก2เท่า |
|
|
|
|
จากกรณีโรงเรียนใน กทม.พบเด็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ จนต้องปิดการเรียนการสอน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ.นายสุพร ชัยเดชสุริยะ ผอ.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตจุฬาฯประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2วัน คือวันที่ 6-7 ก.พ.เนื่องจากพบมีนักเรียนป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ขณะนี้เปิดเรียนตามปกติแล้ว เว้นระดับอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ 1 หยุดเรียนต่อเนื่องอีก 1 วัน ขณะเดียวกันโรงเรียนจะคัดกรองเด็กแบ่งเป็น 2ช่วง คือ ช่วงเช้า ก่อนเข้าเรียนและช่วง 11.00 น.หากพบเด็กคนใดมีอาการป่วยเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูกจะให้กลับไปพร้อมผู้ปกครองทันที และในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะประสานกับผู้ปกครองติดตามอาการของนักเรียนที่ป่วยอีกครั้ง
ขณะที่ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การปิดโรงเรียนถือเป็นมาตรการอย่างหนึ่งในการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ให้แพร่กระจาย แต่ดีที่สุดคือหากพบว่าลูกหลานเริ่มมีอาการไข้ ควรให้หยุดเรียนทันที หรือหากโรงเรียนพบว่าเด็กนักเรียนมีอาการไข้ แม้จะไข้ต่ำๆก็ควรแจ้งผู้ปกครองและให้หยุดพักจนกว่าอาการจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การพบเชื้อไข้หวัดใหญ่มากขึ้นในปีนี้เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ตั้งแต่ปี 2559 ส่วนโรงเรียนที่ปิดชั่วคราวในกทม.มีประมาณ 3-4 แห่ง ในภูมิภาคมีประมาณ 1-2 แห่ง ซึ่งหลายแห่งเปิดเรียนตามปกติแล้ว สำหรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ จะมีการฉีดให้ 2 ช่วงคือ เดือน เม.ย.และเดือน ต.ค.ส่วนข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ที่มีการพยากรณ์โรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ปี 2559 ระบุว่า ในปี 2560 ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จะพบมากขึ้นเนื่องจากเริ่มพบมากตั้งแต่ปลายปี 2559 โดยพบผู้ป่วยถึง 156,943 ราย เสียชีวิต 43 ราย จึงคาดว่าปี 2560 จะมีผู้ป่วยประมาณ 320,000 ราย หรือ เพิ่มขึ้น 2 เท่า
ด้าน นพ.ยง ภู่วรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมาเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในไทยถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างจากการระบาดในปีที่ผ่านๆมาเช่นเดียวกับเรื่องความรุนแรงของตัวโรค ไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นในกลุ่มเสี่ยงคือ เด็กอายุต่ำกว่า 2 รอบ ผู้สูงอายุ 65ปี ขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยเฉพาะโรคปอด โรคหัวใจ คนอ้วนหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะอายุครรภ์มากๆและคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ หรือกินยากดภูมิคุ้มกันอยู่โรคไข้หวัดใหญ่ในไทยมักมีการระบาดใหญ่ในช่วงหน้าฝนเดือน มิ.ย.-ก.ค.ทั้งนี้ ปัจจุบันสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศส่วนมากเป็น เอช 3 เอ็น 2 (H3N2)ซึ่งวัคซีนที่ใช้ฉีดป้องกันโรคถือว่าครอบคลุมเรื่องการป้องกันโรคได้ แต่ก็ป้องกันได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ว่า ได้หารือกับ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยากร รมว.สาธารณสุขแล้ว ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปี 60 มากกว่า ปี 59 อาจจะถึง 2 เท่า มาตรการที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันดีกว่าการรักษา ด้วยการรักษาความสะอาดถ้ารู้ตัวว่าไม่สบาย ให้พบแพทย์เพื่อตรวจโรคว่ามีเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือไม่ และหากพบว่ามีอาการป่วยก็ควรคัดแยกตัวออกจากผู้อื่น เช่น ในครอบครัวก็ต้องแยกห้องนอน และแยกภาชนะต่างๆสถานกรณ์จะคลี่คลายไปเอง ขออย่าตื่นตระหนก การแพร่ระบาดเป็นแบบนี้ทุกปี ขึ้นอยู่กับมาตรการว่าจะป้องกันอย่างไร |
| | |
|
| |
|
pageview 1205153 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |