HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 28/01/2557 ]
น้ำค้างแข็งยังแพรวพราว27-29นี้อีสานยิ่งหนาวอีก
 แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งยังโผล่ให้ชมอย่างต่อเนื่องทั้งภาคเหนือที่อุทยานฯ ภูหินร่องกล้ากับอีสานที่ภูเรือบางแห่งอุณหภูมิกลับลดลงทั้งที่กรมอุตุฯ แจ้งอุณหภูมิจะสูงขึ้น ส่วนเมืองน่านอากาศหนาวส่งผลให้ผักเติบโตเร็วและงอกงาม ขณะที่ลำพูนมีคนหนาวตายอีกรายด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุขเตือนให้ระวังสุขภาพของทารกช่วงหน้าหนาวจะมีอาการ "โคลด์ สเตรส" หรือ ภาวะตัวเย็นเกินอาจทำให้เสียชีวิตได้ ช่วงที่ผ่านมาทารกสังเวยชีวิตไปแล้ว 2 ศพ
          แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาประกาศทั่วประเทศอุณหภูมิจะสูงขึ้นแต่สภาพอากาศยังหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องจนเกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็ง โดยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ม.ค.นายสมัส สีเสือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า สภาพอากาศในพื้นที่ภูเขาสูงแถบ อ.นครไทย และ อ.ชาติตระการ ยังคงหนาวจัด ต่ำกว่า 10 องศา ขณะที่บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาอยู่กลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าที่ระดับความสูง 1,400 เมตร ยังคงเกิดแม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็งอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้ว ตั้งแต่ 23-25 ม.ค.ล่าสุดอุณหภูมิ -3 องศา ยอดหญ้า อยู่ที่ -4 องศา ส่วนที่บริเวณหน่วยำทักษ์น้ำตกหมันแดง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ประมาณ 24 กม. อุณหภูมิ -5 องศาเท่าเดิม กับวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา 
          นายมนัสกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันมีนักท่องะเที่ยวมาพักค้างคืนที่บ้านใหม่ร่องกล้าที่มีโฮมสเตย์เพื่อรอชมปรากฎการณ์แม่คะนิ้งในช่วงเช้า ต่างไม่ผิดหวังเพราะได้พบเห็นน้ำค้างแข็งเกาะตามใบไม้ ใบหญ้า และใบกะหล่ำปลีจนขาวโพลนเต็มไปหมด และที่สร้างความประทับใจคือ แม้แต่น้ำที่คงค้างในท่อสายยางที่ชาวบ้านต่อไปยังแปลงผักยังกลายเป็นน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการตัดกะหล่ำปลีที่ต้องรีบเร่งนำส่งตลาด เพราะช่วงเช้ามีน้ำค้างแข็งเกาะที่ดอกกะหล่ำอย่างหนา ชาวเขาต้องรอให้ถึงช่วงสายคือตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีแสงแดดส่องทำให้น้ำแข็งละลายจึงจะสามารถตัดกะหล่ำปลีได้ 
          ที่ จ.น่าน ยังมีสภาพอากาศหนาวเย็นลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเขตเมืองอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 9.1 องศา ส่วนบนยอดดอยมีสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิ 1-3 องศา และจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลดีต่อการเกษตร เนื่องจากพืชผักแทบทุกชนิดเจริญเติบโตเร็ว ลำต้นบริบูรณ์ ติดดอกออกผลดีไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน อย่างที่เรือนจำชั่วคราวเขาน้อยจังหวัดน่าน ได้ส่งเสริมให้ผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษจำหน่าย ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับจากผู้นิยมบริโภคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้อากาศหนาวเย็นทำให้พืชผักโตเร็ว ใบผักงอกงาม ลำต้นโตมีสีสวยน่ารับประทานกลุ่มแม่ค้าและเจ้าของร้านอาหารต่างๆ พากันมาซื้อไปจำหน่ายต่อเป็นจำนวนมาก 
          ส่วน จ.ลำพูน ปรากฎว่ามีคนหนาวตายในบ้านเลขที่ 65 ถนนสันป่ายาง ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน ทราบชื่อนายธารนอง จันทร์เรือง อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านหลังรับแจ้ง ร.ต.ท.เกรียงเดช ปัญญาเหล็กพงส.สภ.เมืองลำพูน ไปสอบสววนชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสีชชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เบื้องต้นสันนิษฐานหัวใจวายจากอากาศหนาวจัด เพราะผู้ตายชอบดื่มสุราเป็นประจำพอเมาได้ที่จะนอนหลับโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ 
          สำหรับ จ.เลย ยังคงหนาวจัดอย่างต่อเนื่องถึงแม้อุณหภูมิจะสูงขึ้นโดยเฉพาะที่ อ.ภูเรือ แม่คะนิ้ง โผล่อย่างต่อเนื่อง นายสุทธาชีพ ศุภเกสร ผอ.ศูนย์วิจัย และพัฒนาเกษตรที่สูงภูเรือ ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ กล่าวว่า ปีนี้อากาศหนาวติดต่อกันนานนับเดือนแล้ว ทำให้มีแม่คะนิ้งเกิดขึ้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงภูเรือบ่อยมาก และในเช้าวันเดียวกันนี้ก็เช่นเดียวกัน เกิดแม่คะนิ้งอีกรอบเต็มลานบ้านพักพนักงานและหน้าที่ทำการจนขาวโพลนอย่างเห็นได้ชัด ในอุณหภูมิ 4 องศา และยอดหญ้า -2 องศา 
          ขณะที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไทยมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น และในเดือน ม.ค. พบรายงานเด็กอ่อนอายุต่ำกว่า 1 เดือน เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นแล้ว 2 ราย ที่สระแก้วและชลบุรี ซึ่งกลุ่มเด็กอ่อนแรกเกิดจนถึง 1 เดือนนั้น อวัยวะภายในและศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของ
ร่างกายยังทำงานได้เพียง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ทำให้อุณหภูมิร่างกายเด็กเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศได้ง่าย ยิ่งเด็กที่คลอดก่อนกำหนดยิ่งจะมีความเสี่ยงสูง หากเด็กสัมผัสกับความหนาวเย็น เช่น อยู่ในอากาศหนาวเป็นเวลานานจะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงจนเกิด "โคลด์ สเตรส" หรือ ภาวะตัวเย็นเกินจะทำหใเส้นเลือดหดตัว หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย สมองหรืออวัยวะอื่นๆ อาจขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นอัยตรายถึงเสียชีวิตได้ 
          ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ออกติดตามเยี่ยมบ้านเด็กที่เพิ่งคลอดเพื่อให้ความรู้ในการเลี้ยงดูบุตรแก่บิดามารดา รวมถึงการใช้ความรู้ในการสังเกตอาการของบุตรอย่างใกล้ชิดวันละ 6-8 ครั้ง เพื่อช่วยให้บุตรปลอดภัยจากอากาศหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่อากาศหนาวเย็นได้ขอให้เจ้าหน้าที่และอสม.ให้ความสำคัญกับการแนะนำเรื่องการดูแลความอบอุ่นของเด็กเป็นพิเศษ 
          ส่วน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วิธีการสังเกตหรือสัญญาณเตือนว่าเด็กมีอุณหภูมิร่างกายต่ำจากความหนาเย็นให้สังเกตว่าเด็กจะร้องและดิ้น ซึ่งเป็นกลไกการปรับตัวเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเมื่อสัมผัสที่ผิวเด็กจะพบว่าตัวเย็น มือเท้าเย็น สีผิวมีลักษณะเป็นจ้ำ แดง ลายทั่วตัว นิ้วมือนิ้วเท้าเย็น สีผิวมีลักษณะเป็นจ้ำ แดง ลายทั่วตัว นิ้วมือนิ้วเท้าซีดและเขียว หากพบอาการดังกล่าวขอให้ผู้ปกครองรีบเพิ่มความอบอุ่นเด็กโดยเร็ว โดยใส่ถุงมือ ถุงเท้า ใส่เสื้อผ้าหลายชั้นและใช้ปรอทวัดไข้วัดอุณหภูมิร่างกายเด็ก อุณหภูมิจะต้องไม่ต่ำกว่า 35 องศา แต่หากยังไม่ดีขึ้น และเด็กมีอาการซึมลงให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที 
          ขณะที่กรมอุตุนิยมวิมยาประกาศว่า ช่วงวันที่ 25 - 26 ม.ค.บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกับมีหมอกเพิ่มขึ้นในตอนเช้า แต่บริเวณประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า สำหรับคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค.ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้น.

pageview  1206036    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved