เซ่นสังเวยอากาศหนาวอีก 3 ศพใน 2 จังหวัด ที่เชียงใหม่ พ่อเฒ่าและหนุ่มใหญ่ดับ ส่วนเมืองชลหนุ่มนิรนามตายคาตลาดสด ด้านยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิยอดหญ้าลดลง -2 องศา แม่คะนิ้งโผล่ขาวโพลน นักท่องเที่ยวแห่ชม สกลนครหนาวยาวนานในรอบ 40 ปี ขณะที่เมืองเลย ปลาในกระชังตายวันละ 500 ตัว นครพนมวิกฤติรอบ 5 ปี ชาวบ้านผิงไฟคลายหนาวกลางดึก
สภาพอากาศหนาวเย็นทั่วประเทศทำให้ชาวบ้านที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ จ.สกลนคร นายวิชาญ แท่นหิน หน.ปภ.สกลนคร เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว หลังสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.สกลนคร รายงานว่า จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้จังหวัดต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ (ภัยหนาว) ทั้งจังหวัด 18 อำเภอ ซึ่งจังหวัดกำลังเร่งจัดซื้อผ้าห่มเพื่อแก้ปัญหาให้ทันกับความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการผ้าห่ม 260,000 ผืน จากสถิติพบว่า สภาพอากาศหนาวเย็นยาวนานที่สุดในรอบ 40 ปี และจะหนาวเย็นต่อไปจนถึงกลางเดือน ก.พ.
ที่ จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านริมฝั่ง แม่น้ำโขง ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงปลากระชัง ในพื้นที่ อ.เชียงคาน กำลังได้รับความเดือดร้อนปลาในกระชัง หนาวตาย พร้อมกับมีโรคอิ๊กหรือโรคจุดขาว ทำให้ปลาในกระชังไม่โตกินอาหารน้อย ตายอย่างน้อยวันละ 400-500 ตัวต่อวัน ด้านนางสิรินาฏ นาควิทย์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังริมแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพเลี้ยงปลากระชังริมแม่น้ำโขงมาตั้งแต่ปี 48 ทุกปีเมื่อถึงฤดูหนาวจะเตรียมตัวป้องกันไม่ให้ปลาเกิดโรค และตามธรรมชาติพออากาศหนาวมาก ปลาจะไม่ค่อยกินอาหาร แต่มาปีนี้ผิดธรรมชาติอย่างมาก ปลาจะป่วยเป็นโรคอิ๊กหรือโรคจุดขาว เริ่มแรกตัวปลาเหมือนมีฝุ่นเล็กๆจับแล้วแพร่ขยายไปทั้งตัว และระบาดไปเร็วมากไม่กี่วันก็ตาย ก่อนตายจะมีเลือดออกที่เหงือก
ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นหลังอุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดพบอุณหภูมิต่ำสุด 7 องศาถือเป็นปีที่สภาพอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 5 ปี และหนาวนานที่สุด ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายพื้นที่ประสบภัยหนาวอย่างหนัก จังหวัดต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวครบทั้ง 12 อำเภอ ระดมนำผ้าห่มกันหนาวไปแจกจ่ายช่วยเหลือเร่งด่วน เบื้องต้นจากการสำรวจมีประชาชนเดือดร้อนขาดแคลนผ้าห่มเกือบ 2 แสนราย คนแก่และเด็กต้องก่อไฟผิงคลายหนาวในช่วงกลางคืน เพื่อสร้างความอบอุ่นก่อนนอน
ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศ ภาคเหนือที่กลับเข้าสู่ความหนาวจัดอีกครั้ง จากลักษณะ สภาพอากาศดังกล่าวส่งผลให้ที่บริเวณยอดดอย อินทนนท์ อ.จอมทอง เกิดปรากฏการณ์เหมยขาบหรือแม่คะนิ้งขึ้นอีกครั้ง โดยเกิดขึ้นขาวโพลนทั้งบนยอดหญ้า ใบไม้ ท่อนไม้ เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าเกิดค่อนข้างยาก จนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมานอนค้างคืน ต่างพากันถ่ายภาพเก็บไว้ ด้านนายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวบนยอดดอย
ขณะที่ผลกระทบกับอากาศหนาวเย็นยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.สง่า ยานะโส พงส.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อม แพทย์ และกู้ภัยไปตรวจสอบคนตายที่บ้านเลขที่ 136/8 หมู่ 2 ต.ป่าแดด พบศพนายจันทร์ จันต๊ะมะ อายุ 95 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย สอบสวนนางกุลปรีญา จันต๊ะมะ ลูกสาวผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นพ่อนอนตื่นสายจึงเข้าไปดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว แพทย์สันนิษฐานว่าช่วงกลางคืนอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดเหลือ 12 องศาฯ อาจช็อกเสียชีวิต สอบสวนญาติไม่ติดใจการตายจึงมอบศพให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล
อีกราย ร.ต.อ.ภชพน ทะจะกัน พงส.สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ไปตรวจสอบเหตุคนตายที่บ้านพักคนงาน บริษัทบุญทัศน์ทรานสปอร์ต ถนนสันป่าเลียง ต.หนองหอย พบศพนายบุญทัน ทองผุย อายุ 45 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ตามร่างกายไม่พบบาดแผล แพทย์คาดว่าผู้ตายอาจมีโรคประจำตัว เมื่อมาเจออากาศเย็นจึงอาจช็อกเสียชีวิต ส่งศพให้แพทย์ภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรต่อไป
รายต่อมาที่ จ.ชลบุรี ร.ต.อ.สมัชชา ไมตรี พงส.สภ.บ้านบึง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสมอ อ่อนมั่ง ผกก.ไปตรวจสอบพบศพในตลาดสดเนื่องจำนง ที่กำลังก่อสร้าง หมู่ 3 เขตเทศบาล ต.หนองชาก พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ ผิวดำแดงอายุประมาณ 50 ปี ใส่เสื้อสีครีมแขนยาว สวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลดำเสียชีวิตมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด พ.ต.อ.เสมอเปิดเผยว่า หลังสอบสวนพยานที่เป็นแม่ค้าขายของในตลาดทราบว่า พบผู้ตายเดินวนเวียนอยู่ในตลาดมา 2-3 วันแล้ว เบื้องต้นคาดว่าชายนิรนามคนนี้นอนหลับอยู่ในตลาดสดประกอบกับอากาศที่หนาวเย็นจัด อาจทนความหนาวเหน็บไม่ไหวถึงแก่ความตาย นำศพส่งให้แพทย์ รพ.บ้านบึง ตรวจสอบหาสาเหตุการตายต่อไป
