นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้ จะมีการเล่นดอกไม้ไฟและประทัด ซึ่งหากเล่นด้วยความประมาท ก็อาจจะได้รับอันตรายจากการเล่นได้ ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการเล่น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความคึกคะนอง ชอบเล่นผาดโผน เล่นไม่ถูกวิธี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่อภัยของดอกไม้ไฟซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายแก่ร่างกายและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน เพราะดอกไม้ไฟ และประทัดนั้น ประกอบด้วยสารเคมีอันตรายหลายชนิด เช่น สารเคมีที่ใช้เป็นตัวเติมออกซิเจนเพื่อช่วยในการเผาไหม้ ได้แก่ สารประกอบไนเตรต, คลอเรต, โปแตสเซียม, แบเรียม รวมถึงสารเคมีที่ใช้เป็นตัวเร่ง และควบคุมความเร็วในการเผาไหม้ให้เกิดความร้อน เช่น ผงกำมะถัน, แมกนีเซียม , สังกะสี และสารเคมีที่ทำให้เกิดประกายเป็นสีต่างๆ นั้นล้วนแต่มีอันตราย
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่าไม่ว่าจะเป็นสารเคมี ความร้อนหรือเสียงล้วนแต่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ต่างกันไป เช่น หากมีเสียงดังมากๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อการได้ยิน เพราะประทับเกือบทุกชนิดก่อให้เกิดเสียงดังมีระดับเสียงกระแทกสูงกว่า 130 เดซิเบลเอ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้คือ 85 เดซิเบลเอ ซึ่งจะทำให้มีอาการหูตึงชั่วคราวและหากได้รับในช่วงเวลานานก็จะทำให้หูตึงถาวรได้ ส่วนไฟเย็นที่มีความร้อน 649-983 องศาเซลเซียสก็สามารถทำให้ผิวหนังไหม้หรือตาบอดได้ เป็นต้น.